27ก.พ.
… ภิกษุทั้งหลาย สมัยใด พวกภิกษุมีความพร้อมเพรียงกัน ชื่นชมต่อกัน ไม่วิวาทกัน เป็นเหมือนน้ำนมกับน้ำ ต่างมองดูกันและกันด้วยสายตาอันเปี่ยมด้วยความรักอยู่.
ภิกษุทั้งหลาย สมัยนั้น พวกภิกษุย่อมประสบบุญเป็นอันมาก.
ภิกษุทั้งหลาย สมัยนั้น พวกภิกษุอยู่กันเหมือนพรหม... read more
19ส.ค.
คนจะแย่งชิง (ผู้อื่น) ได้ ก็ชั่วขณะที่การแย่งชิงนั้นจะพอเป็นไปได้ แต่เมื่อใด ผู้อื่นมาแย่งชิงบ้าง เมื่อนั้น ผู้ที่แย่งชิงนั้น ย่อมถูกเขาแย่งชิงกลับคืน.
หากว่าบาปยังไม่ให้ผลเพียงใด คนพาลย่อมสำคัญบาป ว่าเป็นของดีเพียงนั้น แต่เมื่อใดบาปให้ผล เมื่อนั้น คนพาลย่อมประสบความทุกข์.
ผู้ฆ่าย่อมได้รับการฆ่าตอบ... read more
06มิ.ย.
ภิกษุทั้งหลาย พระอรหันตสัมมาสัมพุทธะทั้งหลายเหล่าใด ได้ตรัสรู้ตามความเป็นจริงไปแล้ว ในกาลอันเป็นอดีต ท่านเหล่านั้นทั้งหมด ได้ตรัสรู้ตามความเป็นจริง ซึ่งอริยสัจ ๔ ประการ.
ภิกษุทั้งหลาย พระอรหันตสัมมาสัมพุทธะทั้งหลายเหล่าใด จักได้ตรัสรู้ตามความเป็นจริง ในกาลอันเป็นอนาคต ท่านเหล่านั้นทั้งหมด ก็จักได้ตรัสรู้ตามความเป็นจริง... read more
04ส.ค.
ท่านจงพยายามตัดกระแสตัณหา จงบรรเทากามเสียเถิดพราหมณ์ เพราะมุนีผู้ไม่ละกาม ย่อมไม่เข้าถึงความเป็นผู้มีจิตแน่วแน่ได้.
ถ้าบุคคลจะพึงทำความเพียร พึงทำความเพียรนั้นอย่างจริงจัง พึงบากบั่น ทำความเพียรนั้นให้มั่น เพราะว่าการบรรพชาที่ปฏิบัติย่อหย่อน ยิ่งโปรยโทษดังฝุ่นธุลี.
ความชั่ว ไม่ทำเสียเลยประเสริฐกว่า เพราะทำความชั่วแล้ว ย่อมเดือดร้อนในภายหลัง.
ก็กรรมใดที่ทำแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง... read more
04ธ.ค.
สัตว์โลกนี้ เกิดความเดือดร้อนแล้ว มีผัสสะบังหน้า ย่อมกล่าวซึ่งโรคนั้น โดยความเป็นตัวเป็นตน.
เขาสำคัญสิ่งใด โดยความเป็นประการใด แต่สิ่งนั้นย่อมเป็นโดยประการอื่น จากที่เขาสำคัญนั้น.
สัตว์โลกติดข้องอยู่ในภพ ถูกภพบังหน้าแล้ว มีภพโดยความเป็นอย่างอื่น จึงได้เพลิดเพลินยิ่งนักในภพนั้น.
เขาเพลิดเพลินยิ่งนักในสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นภัย... read more
03มิ.ย.
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ในภพที่อยู่อาศัยก่อน ได้เป็นผู้ไม่ถลึงตา ไม่ค้อนควัก ไม่จ้องลับหลัง เป็นผู้แช่มชื่นมองดูตรงๆ มองดูผู้อื่นด้วยสายตาอันแสดงความรัก เพราะได้กระทำ ได้สร้างสม ได้พอกพูน ได้ทำให้ไพบูลย์ซึ่งกรรมนั้นๆ ไว้... read more
14ม.ค.
ภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายที่ไม่มีเท้าก็ดี มี ๒ เท้าก็ดี มี ๔ เท้าก็ดี มีเท้ามากก็ดี มีรูปก็ดี ไม่มีรูปก็ดี มีสัญญาก็ดี ไม่มีสัญญาก็ดี มีสัญญาก็มิใช่จะไม่มีสัญญาก็มิใช่ก็ดี มีประมาณเท่าใด
ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะ บัณฑิตกล่าวว่า เป็นผู้เลิศกว่าบรรดาสัตว์เหล่านั้น.
ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่งบรรดามี กุศลธรรมเหล่านั้นทั้งหมด... read more
06ม.ค.
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเห็นรูปอันไม่เที่ยงนั่นแหละ ว่าไม่เที่ยง
ความเห็นของเธอนั้นเป็นสัมมาทิฏฐิ
เมื่อเห็นอยู่โดยถูกต้อง ย่อมเบื่อหน่าย
เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิ จึงมีความสิ้นไปแห่งราคะ
เพราะความสิ้นไปแห่งราคะ จึงมีความสิ้นไปแห่งนันทิ
เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิและราคะ
กล่าวได้ว่า จิตหลุดพ้นแล้วด้วยดี.
ภิกษุเห็นเสียงอันไม่เที่ยงนั่นแหละ ว่าไม่เที่ยง … เห็นกลิ่นอันไม่เที่ยงนั่นแหละ ว่าไม่เที่ยง …... read more
29ม.ค.
… ภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว เวปุลลบรรพตนี้มีชื่อว่าสุปัสสะ สมัยนั้น หมู่มนุษย์มีชื่อว่าสุปปิยา หมู่มนุษย์ชื่อสุปปิยามีอายุประมาณสองหมื่นปี หมู่มนุษย์ชื่อสุปปิยาขึ้นสุปัสสบรรพตเป็นเวลา ๒ วัน ลงก็เป็นเวลา ๒... read more
20ก.ค.
“ภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นอนัตตา ก็หากรูปนี้จักเป็นอัตตาแล้ว รูปก็คงไม่เป็นไปเพื่ออาพาธ ทั้งสัตว์ย่อมจะได้ตามความปรารถนาในรูปว่า ขอรูปของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย.
แต่เพราะรูปเป็นอนัตตา ดังนั้น รูปจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และสัตว์ย่อมไม่ได้ตามความปรารถนาในรูปว่า ขอรูปของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด... read more