บุญ เป็นชื่อของความสุข
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย คำว่าบุญนี้ เป็นชื่อของความสุข ภิกษุทั้งหลาย เราย่อมรู้ชัดซึ่งผลแห่งบุญอันน่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่เราได้รับแล้วตลอดกาลนาน เราได้เจริญเมตตาจิตมาตลอด ๗ ปี ครั้นแล้ว เราไม่ได้กลับมายังโลกนี้ตลอด ๗ สังวัฏฏกัปและวิวัฏฏกัป ภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า เมื่อโลกเสื่อม (สังวัฏฏะ) เราเข้าถึงชั้นอาภัสสระ เมื่อโลกกลับเจริญขึ้น (วิวัฏฏะ) เราเข้าถึงพรหมวิมานอันว่างเปล่า ภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า ในพรหมวิมานนั้น เราได้เป็นพรหม เป็นท้าวมหาพรหมผู้ยิ่งใหญ่ อันใครๆ ครอบงำไม่ได้ เป็นผู้เห็นสิ่งทั้งปวงโดยเด็ดขาด เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด.
ภิกษุทั้งหลาย เราได้เป็นท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่แห่งทวยเทพ ๓๖ ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ตั้งอยู่ในธรรม เป็นธรรมราชา มีทิศทั้ง ๔ เป็นที่สุด ผู้ชนะสงคราม มีชนบทถึงความมั่นคงถาวร ประกอบด้วยรัตนะ ๗ ประการ ตั้งหลายร้อยครั้ง รัตนะ ๗ ประการนี้ของเรานั้น คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว มณีแก้ว นางแก้ว คหบดีแก้ว และปริณายกแก้วเป็นที่ ๗ อนึ่ง เราเคยมีบุตรมากกว่าพันคน ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้กล้าหาญ รูปทรงองอาจ สามารถย่ำยีข้าศึกได้ เรานั้นครอบครองแผ่นดินนี้ อันมีมหาสมุทรเป็นขอบเขตโดยธรรม ไม่ต้องใช้อาชญา ไม่ต้องใช้ศาตรา.
ภิกษุทั้งหลาย จงดูผลแห่งบุญกุศล ของบุคคลผู้แสวงหาความสุข
เราเจริญเมตตาจิตมาแล้ว ๗ ปี
ไม่ต้องกลับมาสู่โลกนี้ตลอด ๗ สังวัฏฏและวิวัฏฏกัป
เมื่อโลกเสื่อม เราเข้าถึงชั้นอาภัสสระ
เมื่อโลกเจริญขึ้น เราเข้าถึงพรหมวิมานอันว่างเปล่า
ในกาลนั้น เราเป็นท้าวมหาพรหม ผู้มีอำนาจเต็ม ๗ ครั้ง
เป็นท้าวสักกะจอมเทพ เสวยสมบัติในเทวโลก ๓๖ ครั้ง
เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้เป็นใหญ่ในหมู่ชนชาวชมพูทวีป
เป็นกษัตริย์ได้รับมุรธาภิเษกแล้ว เป็นใหญ่ในหมู่มนุษย์
ปกครองปฐพีมณฑลนี้ โดยไม่ต้องใช้อาชญา ไม่ต้องใช้ศาตรา
สั่งสอนคนในปฐพีมณฑลนั้นโดยธรรมสม่ำเสมอ ไม่ผลุนผลัน
ครั้นได้เสวยราชในปฐพีมณฑลนี้โดยธรรมแล้ว ได้เกิดในตระกูลมั่งคั่ง
มีทรัพย์สมบัติมากมาย ทั้งบริบูรณ์พร้อมด้วยรัตนะ ๗ ประการ
อันอำนวยความประสงค์ให้ทุกอย่าง.
ฐานะดังที่กล่าวมานี้ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้สงเคราะห์โลก ทรงแสดงไว้ดีแล้ว
นี้เป็นเหตุแห่งความเป็นใหญ่ ซึ่งเรียกกันว่าพระเจ้าแผ่นดิน
เราเป็นพระราชาผู้เรืองเดช มีอุปกรณ์เครื่องให้ปลื้มใจมากมาย
มีฤทธิ์ มียศ ถึงความเป็นใหญ่ในหมู่ชนชาวชมพูทวีป
ใครบ้างได้ฟังแล้วจะไม่เลื่อมใส แม้จะเป็นคนมีชาติกำเนิดที่ต่ำต้อย
เพราะฉะนั้นแหละ ผู้มุ่งประโยชน์ตน มุ่งหวังความเป็นใหญ่
พึงระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พึงเคารพสัทธรรมเถิด.
-บาลี สตฺตก. อํ. 23/90/59.
https://84000.org/tipitaka/pali/?23/90
https://etipitaka.com/read/pali/23/90
English translation by Bhikkhu Sujato
“Mendicants, don’t fear good deeds. For ‘good deeds’ is a term for happiness. I recall undergoing for a long time the likable, desirable, and agreeable results of good deeds performed over a long time. I developed a mind of love for seven years. As a result, for seven eons of the cosmos contracting and expanding I didn’t return to this world again. As the cosmos contracted I went to the realm of streaming radiance. As it expanded I was reborn in an empty mansion of Brahmā.
There I was Brahmā, the Great Brahmā, the undefeated, the champion, the universal seer, the wielder of power. I was Sakka, lord of gods, thirty-six times. Many hundreds of times I was a king, a wheel-turning monarch, a just and principled king. My dominion extended to all four sides, I achieved stability in the country, and I possessed the seven treasures. These were my seven treasures: the wheel, the elephant, the horse, the jewel, the woman, the treasurer, and the counselor as the seventh treasure. I had over a thousand sons who were valiant and heroic, crushing the armies of my enemies. After conquering this land girt by sea, I reigned by principle, without rod or sword.
See the result of good deeds,
of skillful deeds, for one seeking happiness.
I developed a mind of love
for seven years, mendicants.
For seven eons of expansion and contraction
I didn’t return to this world again.
As the world contracted
I went to the realm of streaming radiance.
And when it expanded
I went to an empty mansion of Brahmā.
Seven times I was a Great Brahmā,
and at that time I was the wielder of power.
Thirty-six times I was lord of gods,
acting as ruler of the gods.
Then I was king, a wheel-turning monarch,
ruler of all India.
An anointed aristocrat,
I was sovereign of all humans.
Without rod or sword,
I conquered this land.
Through non-violent action
I guided it justly.
After ruling this vast territory
by means of principle,
I was born in a rich family,
affluent and wealthy.
It was replete with all sense pleasures,
and the seven treasures.
This was well taught by the Buddhas,
who bring the world together.
This is the cause of greatness
by which one is called a lord of the land.
I was a majestic king,
with lots of property and assets.
Successful and glorious,
I was lord of India.
Who would not be inspired by this,
even someone of dark birth.
Therefore someone who cares for their own welfare,
and wants to become the very best they can be,
should respect the true teaching,
remembering the instructions of the Buddhas.”