เมื่อเจริญอานาปานสติ วิตกอันเป็นฝ่ายแห่งความคับแค้นย่อมไม่มี
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงเป็นผู้พิจารณาเห็นความไม่งามในกายอยู่เถิด จงมีอานาปานสติอันเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วเฉพาะหน้าในภายใน จงพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวงอยู่เถิด.
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอทั้งหลายพิจารณาเห็นความไม่งามในกายอยู่ ย่อมละราคานุสัยในธาตุที่สวยงามได้ เมื่อเธอทั้งหลายมีอานาปานสติอันเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วเฉพาะหน้าในภายใน ความนอนตามของวิตกทั้งหลายในภายนอก อันเป็นฝักฝ่ายแห่งความคับแค้นย่อมไม่มี เมื่อเธอทั้งหลายพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวงอยู่ ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น.
ภิกษุผู้พิจารณาเห็นความไม่งามในกาย
ตั้งสติในลมหายใจเข้าออก มีความเพียรไม่หยุดหย่อน
พิจารณาเห็นภาวะที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งปวง
ภิกษุนั้นแล ผู้เห็นโดยชอบ มีความเพียรอยู่
ย่อมน้อมไปในธรรม อันเป็นที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งปวง
ภิกษุนั้นแล ผู้อยู่จบอภิญญา เป็นผู้สงบระงับ
ล่วงพ้นโยคะได้แล้ว ชื่อว่าเป็นมุนี.
-บาลี อิติวุ. ขุ. 25/292/264.
https://84000.org/tipitaka/pali/?25//292
https://etipitaka.com/read/pali/25/292
English translation by Bhikkhu Sujato
“Mendicants, meditate observing the ugliness of the body. Let mindfulness of breathing be well-established right there inside you. Meditate observing the impermanence of all conditions. As you meditate observing the ugliness of the body, you will give up desire for the body. When mindfulness of breathing is well-established right there inside you, there will be no distressing external thoughts or wishes. When you meditate observing the impermanence of all conditions, ignorance is given up and knowledge arises.”
“Observing the ugliness of the body,
mindful of the breath,
one always keen sees
the stilling of all activities.
That mendicant sees rightly,
and when freed in regards to that,
that peaceful sage, with perfect insight,
has truly escaped their bonds.”