พิธีกรรมไม่ช่วยอะไร
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ปาวาริกอัมพวัน เขตเมืองนาฬันทา ครั้งนั้นแล นายบ้านนามว่าอสิพันธกบุตร เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้วนั่งในที่สมควร ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
ภันเต พวกพราหมณ์ชาวปัจฉาภูมิ มีคณโฑน้ำติดตัว ประดับพวงมาลัยสาหร่าย อาบน้ำทุกเช้าเย็น และบำเรอไฟ พราหมณ์เหล่านั้นชื่อว่าทำสัตว์ที่ทำกาละแล้วให้มีชีวิตขึ้น ให้รู้ชอบ ชวนให้เข้าสวรรค์ ภันเต ก็พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธะ สามารถกระทำให้สัตว์โลกทั้งหมด ภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย พึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ได้หรือไม่.
คามณิ ถ้าอย่างนั้น เราจักย้อนถามท่านในข้อนี้ ปัญหาควรแก่ท่านด้วยประการใด ท่านพึงตอบปัญหาข้อนั้นด้วยประการนั้น คามณิ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร บุรุษบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้มักฆ่าสัตว์ เป็นผู้มักลักทรัพย์ เป็นผู้มักประพฤติผิดในกาม เป็นผู้มักพูดเท็จ เป็นผู้มักพูดยุยงให้แตกกัน เป็นผู้มักพูดคำหยาบ เป็นผู้มักพูดเพ้อเจ้อ เป็นผู้มากไปด้วยอภิชฌา (เพ่งเล็งทรัพย์ผู้อื่น) เป็นผู้มีจิตพยาบาท เป็นผู้มีความเห็นผิด มีหมู่มหาชนพากันมาประชุมแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบผู้นั้นว่า ขอบุรุษนี้ภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เถิด ดังนี้ คามณิ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร บุรุษนั้นภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะเหตุแห่งการสวดวิงวอน เพราะแห่งเหตุการสรรเสริญ หรือเพราะเหตุแห่งการประนมมือเดินเวียนรอบอย่างนั้นหรือ.
ไม่ใช่อย่างนั้น ภันเต.
คามณิ เปรียบเหมือนบุรุษโยนหินก้อนหนาใหญ่ลงในห้วงน้ำลึก หมู่มหาชนพากันมาประชุมแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบหินนั้นว่า ขอจงโผล่ขึ้นเถิดท่านก้อนหิน ขอจงลอยขึ้นเถิดท่านก้อนหิน ขอจงขึ้นบกเถิดท่านก้อนหิน ดังนี้ คามณิ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร ก้อนหินนั้นจะโผล่ขึ้น หรือจะลอยขึ้น หรือจะขึ้นบก เพราะเหตุแห่งการสวดวิงวอน เพราะเหตุแห่งการสรรเสริญ หรือเพราะเหตุแห่งการประนมมือเดินเวียนรอบของหมู่มหาชนอย่างนั้นหรือ.
ไม่ใช่อย่างนั้น ภันเต
คามณิ ฉันนั้นก็ฉันนั้น บุรุษคนใด เป็นผู้มักฆ่าสัตว์ เป็นผู้มักลักทรัพย์ เป็นผู้มักประพฤติผิดในกาม เป็นผู้มักพูดเท็จ เป็นผู้มักพูดยุยงให้แตกกัน เป็นผู้มักพูดคำหยาบ เป็นผู้มักพูดเพ้อเจ้อ เป็นผู้มากไปด้วยอภิชฌา เป็นผู้มีจิตพยาบาท เป็นผู้มีความเห็นผิด แม้หมู่มหาชนพากันมาประชุมแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบบุรุษนั้นว่า ขอบุรุษนี้ภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ก็จริง แต่บุรุษนั้นภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย จะเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก.
คามณิ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่างอย่างไร บุรุษบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ เป็นผู้เว้นขาดจากการลักทรัพย์ เป็นผู้เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดเท็จ เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดยุยงให้แตกกัน เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดคำหยาบ เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ เป็นผู้ไม่มากไปด้วยอภิชฌา เป็นผู้มีจิตไม่พยาบาท เป็นผู้มีความเห็นถูกต้อง มีหมู่มหาชนพากันมาประชุมแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบผู้นั้นว่า ขอบุรุษนี้ภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย จงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรกเถิด ดังนี้ คามณิ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร บุรุษนั้นภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะเหตุแห่งการสวดวิงวอน เพราะเหตุแห่งการสรรเสริญ หรือเพราะเหตุแห่งการประนมมือเดินเวียนรอบของหมู่มหาชนอย่างนั้นหรือ.
ไม่ใช่อย่างนั้น ภันเต
คามณิ เปรียบเหมือนบุรุษลงไปยังห้วงน้ำลึก แล้วทุบหม้อที่ใส่เนยใส หรือหม้อที่ใส่น้ำมัน ก้อนกรวดหรือก้อนหินที่มีอยู่ในหม้อนั้นก็จะจมลง ส่วนเนยใสหรือน้ำมันที่มีอยู่ในหม้อนั้นก็จะลอยขึ้น หมู่มหาชนพากันมาประชุมแล้วพึงสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบเนยใสหรือน้ำมันนั้นว่า ขอจงจมลงเถิดท่านเนยใสและน้ำมัน ขอจงดำลงเถิดท่านเนยใสและน้ำมัน ขอจงลงไปภายใต้น้ำเถิดท่านเนยใสและน้ำมัน ดังนี้ คามณิ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร เนยใสหรือน้ำมันนั้นจะจมลง จะดำลง จะลงไปภายใต้น้ำ เพราะเหตุแห่งการสวดวิงวอน เพราะเหตุแห่งการสรรเสริญ หรือเพราะเหตุแห่งการประนมมือเดินเวียนรอบของหมู่มหาชนอย่างนั้นหรือ.
ไม่ใช่อย่างนั้น ภันเต
คามณิ ฉันนั้นก็ฉันนั้น บุรุษใด เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ เป็นผู้เว้นขาดจากการลักทรัพย์ เป็นผู้เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดเท็จ เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดยุยงให้แตกกัน เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดคำหยาบ เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ เป็นผู้ไม่มากไปด้วยอภิชฌา เป็นผู้มีจิตไม่พยาบาท เป็นผู้มีความเห็นถูกต้อง แม้หมู่มหาชนพากันมาประชุมแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบบุรุษนั้นว่า ขอบุรุษนี้ภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย จงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรกเถิด ก็จริง แต่บุรุษนั้นภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลายจะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์.
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว นายบ้านนามว่าอสิพันธกบุตรได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ภันเต ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ภันเต ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนผู้หลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยหวังว่า คนมีตาดีจะได้มองเห็นรูป ดังนี้ พระผู้มีพระภาคทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยายอย่างนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ภันเต ข้าพเจ้านี้ ขอถึงพระผู้มีพระภาค กับทั้งพระธรรม และทั้งพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดทรงจำข้าพเจ้าว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.
-บาลี สฬา. สํ. 18/384/598.
https://84000.org/tipitaka/pali/?18//384
https://etipitaka.com/read/pali/18/384
English translation by Bhikkhu Sujato
At one time the Buddha was staying near Nālandā in Pāvārika’s mango grove.
Then Asibandhaka’s son the chief went up to the Buddha, bowed, sat down to one side, and said to him:
“Sir, there are western brahmins draped with moss who carry pitchers, immerse themselves in water, and serve the sacred flame. When someone has passed away, they truly lift them up, raise them up, and guide them along to heaven. But what about the Blessed One, the perfected one, the fully awakened Buddha: is he able to ensure that the whole world will be reborn in a good place, a heavenly realm when their body breaks up, after death?”
“Well then, chief, I’ll ask you about this in return, and you can answer as you like.
What do you think, chief? Take a person who kills living creatures, steals, and commits sexual misconduct. They use speech that’s false, divisive, harsh, or nonsensical. And they’re covetous, malicious, and have wrong view. And a large crowd comes together to offer up prayers and praise, circumambulating them with joined palms and saying: ‘When this person’s body breaks up, after death, may they be reborn in a good place, a heavenly realm!’ What do you think, chief? Would that person be reborn in heaven because of their prayers?”
“No, sir.”
“Chief, suppose a person were to throw a broad rock into a deep lake. And a large crowd was to come together to offer up prayers and praise, circumambulating it with joined palms, and saying: ‘Rise, good rock! Float, good rock! Float to shore, good rock!’ What do you think, chief? Would that broad rock rise up or float because of their prayers?”
“No, sir.”
“In the same way, take a person who kills living creatures, steals, and commits sexual misconduct. They use speech that’s false, divisive, harsh, or nonsensical. And they’re covetous, malicious, and have wrong view. Even though a large crowd comes together to offer up prayers and praise … when their body breaks up, after death, they’re reborn in a place of loss, a bad place, the underworld, hell.
What do you think, chief? Take a person who doesn’t kill living creatures, steal, or commit sexual misconduct. They don’t use speech that’s false, divisive, harsh, or nonsensical. And they’re contented, kind-hearted, and have right view. And a large crowd comes together to offer up prayers and praise, circumambulating them with joined palms and saying: ‘When this person’s body breaks up, after death, may they be reborn in a place of loss, a bad place, the underworld, hell!’ What do you think, chief? Would that person be reborn in hell because of their prayers?”
“No, sir.”
“Chief, suppose a person were to sink a pot of ghee or oil into a deep lake and break it open. Its shards and chips would sink down, while the ghee or oil in it would rise up. And a large crowd was to come together to offer up prayers and praise, circumambulating it with joined palms and saying: ‘Sink, good ghee or oil! Descend, good ghee or oil! Go down, good ghee or oil!” What do you think, chief? Would that ghee or oil sink and descend because of their prayers?”
“No, sir.”
“In the same way, take a person who doesn’t kill living creatures, steal, or commit sexual misconduct. They don’t use speech that’s false, divisive, harsh, or nonsensical. And they’re contented, kind-hearted, and have right view. Even though a large crowd comes together to offer up prayers and praise … when their body breaks up, after death, they’re reborn in a good place, a heavenly realm.”
When he said this, Asibandhaka’s son the chief said to the Buddha, “Excellent, sir! … From this day forth, may the Buddha remember me as a lay follower who has gone for refuge for life.”
English translation by Ṭhānissaro Bhikkhu
On one occasion the Blessed One was staying near Nāḷandā in the Pāvārika Mango Grove. Then Asibandhakaputta the headman went to the Blessed One and on arrival, having bowed down to him, sat to one side. As he was sitting there he said to the Blessed One: “The brahmans of the Western lands, lord—those who carry water pots, wear garlands of water plants, purify with water, & worship fire—can take (the spirit of) a dead person, lift it out, instruct it, & send it to heaven. But the Blessed One, worthy & rightly self-awakened, can arrange it so that all the world, at the break-up of the body, after death, reappears in a good destination, a heavenly world.”
“Very well, then, headman, I will question you on this matter. Answer as you see fit. What do you think? There is the case where a man is one who takes life, steals, indulges in illicit sex; is a liar, one who speaks divisive speech, harsh speech, & idle chatter; is greedy, bears thoughts of ill-will, & holds to wrong views. Then a great crowd of people, gathering & congregating, would pray, praise, & circumambulate with their hands palm-to-palm over the heart (saying,) ‘May this man, at the break-up of the body, after death, reappear in a good destination, a heavenly world!’ What do you think? Would that man—because of the prayers, praise, & circumambulation of that great crowd of people—at the break-up of the body, after death, reappear in a good destination, a heavenly world?”
“No, lord.”
“Suppose a man were to throw a large boulder into a deep lake of water, and a great crowd of people, gathering & congregating, would pray, praise, & circumambulate with their hands palm-to-palm over the heart (saying,) ‘Rise up, O boulder! Come floating up, O boulder! Come float to the shore, O boulder!’ What do you think? Would that boulder—because of the prayers, praise, & circumambulation of that great crowd of people—rise up, come floating up, or come float to the shore?”
“No, lord.”
“So it is with any man who takes life, steals, indulges in illicit sex; is a liar, one who speaks divisive speech, harsh speech, & idle chatter; is greedy, bears thoughts of ill-will, & holds to wrong views. Even though a great crowd of people, gathering & congregating, would pray, praise, & circumambulate with their hands palm-to-palm over the heart—(saying,) ‘May this man, at the break-up of the body, after death, reappear in a good destination, a heavenly world!’—still, at the break-up of the body, after death, he would reappear in a plane of deprivation, a bad destination, a lower realm, hell.
“Now what do you think? There is the case where a man is one who refrains from taking life, from stealing, & from indulging in illicit sex; he refrains from lying, from speaking divisive speech, from harsh speech, & from idle chatter; he is not greedy, bears no thoughts of ill-will, & holds to right view. Then a great crowd of people, gathering & congregating, would pray, praise, & circumambulate with their hands palm-to-palm over the heart (saying,) ‘May this man, at the break-up of the body, after death, reappear in a plane of deprivation, a bad destination, a lower realm, hell!’ What do you think? Would that man—because of the prayers, praise, & circumambulation of that great crowd of people—at the break-up of the body, after death, reappear in a plane of deprivation, a bad destination, a lower realm, hell?”
“No, lord.”
“Suppose a man were to throw a jar of ghee or a jar of oil into a deep lake of water, where it would break. There the shards & jar-fragments would go down, while the ghee or oil would come up. Then a great crowd of people, gathering & congregating, would pray, praise, & circumambulate with their hands palm-to-palm over the heart (saying,) ‘Sink, O ghee/oil! Submerge, O ghee/oil! Go down, O ghee/oil!’ What do you think? Would that ghee/oil, because of the prayers, praise, & circumambulation of that great crowd of people sink, submerge, or go down?”
“No, lord.”
“So it is with any man who refrains from taking life, from stealing, & from indulging in illicit sex; refrains from lying, from speaking divisive speech, from harsh speech, & from idle chatter; is not greedy, bears no thoughts of ill-will, & holds to right view. Even though a great crowd of people, gathering & congregating, would pray, praise, & circumambulate with their hands palm-to-palm over the heart—(saying,) ‘May this man, at the break-up of the body, after death, reappear in a plane of deprivation, a bad destination, a lower realm, hell!’—still, at the break-up of the body, after death, he would reappear in a good destination, a heavenly world.”
When this was said, Asibandhakaputta the headman said to the Blessed One: “Magnificent, lord! Magnificent! Just as if he were to place upright what was overturned, to reveal what was hidden, to show the way to one who was lost, or to carry a lamp into the dark so that those with eyes could see forms, in the same way has the Blessed One—through many lines of reasoning—made the Dhamma clear. I go to the Blessed One for refuge, to the Dhamma, & to the Saṅgha of monks. May the Blessed One remember me as a lay follower who has gone for refuge from this day forward, for life.”