เคราะห์ร้ายอันใหญ่หลวงของคนพาล
… ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษทิ้งแอกที่มีรูเดียว ลงไปในมหาสมุทร แอกนั้นถูกลมตะวันออกพัดไปทางทิศตะวันตก ถูกลมตะวันตกพัดไปทางทิศตะวันออก ถูกลมเหนือพัดไปทางทิศใต้ ถูกลมใต้พัดไปทางทิศเหนือ มีเต่าตาบอดตัวหนึ่งอยู่ในมหาสมุทรนั้น ล่วงไปทุกๆ ๑๐๐ ปี จึงจะผุดขึ้นมาสักครั้งหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร จะเป็นไปได้ไหม ที่เต่าตาบอดตัวนั้น จะพึงยื่นคอสวมเข้าไปที่แอก ซึ่งมีรูเดียวนั้น.
ข้อนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ภันเต ภันเต ถ้าจะเป็นไปได้บ้างในบางครั้งบางคราว ก็โดยล่วงระยะกาลนานแน่นอน.
ภิกษุทั้งหลาย เต่าตาบอดตัวนั้น จะพึงยื่นคอสวมเข้าไปที่แอก ซึ่งมีรูเดียวนั้นได้ ยังจะเร็วกว่า เรากล่าวข้อที่คนพาลผู้ไปสู่วินิบาตคราวหนึ่งแล้ว จะพึงได้ความเป็นมนุษย์ยังยากกว่านี้ นั่นเพราะเหตุอะไร ภิกษุทั้งหลาย เพราะในหมู่สัตว์จำพวกวินิบาตนี้ไม่มีการประพฤติธรรม ไม่มีการประพฤติสงบ ไม่มีการทำกุศล ไม่มีการทำบุญ มีแต่การกินกันเอง การเบียดเบียนผู้อ่อนแอ.
ภิกษุทั้งหลาย คนพาลนั้นนั่นแล ถ้าจะมาสู่ความเป็นมนุษย์ในบางครั้งบางคราว ไม่ว่ากาลไหนๆ โดยล่วงระยะกาลนาน ก็ย่อมเกิดในตระกูลต่ำเห็นปานนี้ คือ สกุลคนจัณฑาล หรือสกุลคนจักสาน หรือสกุลคนทำรถ หรือสกุลคนเทขยะ ซึ่งเป็นคนยากจน มีข้าวและน้ำน้อย มีความเป็นอยู่ฝืดเคือง มีอาหารและเครื่องนุ่งห่มหาได้โดยยาก เขาจะมีผิวพรรณทราม ไม่น่าดู เตี้ยค่อม มีโรคมาก เป็นคนตาบอดบ้าง เป็นคนง่อยบ้าง เป็นคนกระจอกบ้าง เป็นคนเปลี้ยบ้าง ไม่ค่อยจะมีข้าว น้ำ เครื่องนุ่งห่ม ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย และประทีปโคมไฟ เขายังประพฤติกายทุจริต ประพฤติวจีทุจริต ประพฤติมโนทุจริต ภายหลังจากการตาย เพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก.
ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนนักเลงการพนัน เพราะเคราะห์ร้ายประการแรกเท่านั้นจึงต้องเสียลูกบ้าง เสียเมียบ้าง เสียสมบัติทุกอย่างบ้างยิ่งขึ้นไปอีก ต้องถึงกับถูกจองจำ เคราะห์ร้ายของนักเลงการพนันที่ต้องเสียไปดังนั้น เพียงเล็กน้อย ที่แท้เคราะห์ร้ายอันใหญ่หลวงกว่านั้น คือ เคราะห์ที่คนพาลนั้นประพฤติกายทุจริต ประพฤติวจีทุจริต ประพฤติมโนทุจริตแล้ว ภายหลังจากการตาย เพราะกายแตกทำลาย เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก นั่นเอง. …
-บาลี อุปริ. ม. 14/319/481.
https://84000.org/tipitaka/pali/?14//319
https://etipitaka.com/read/pali/14/319
English translation by Bhikkhu Sujato
…Mendicants, suppose a person were to throw a yoke with a single hole into the ocean. The east wind wafts it west; the west wind wafts it east; the north wind wafts it south; and the south wind wafts it north. And there was a one-eyed turtle who popped up once every hundred years.
What do you think, mendicants? Would that one-eyed turtle still poke its neck through the hole in that yoke?”
“No, sir. Only after a very long time, sir, if ever.”
“That one-eyed turtle would poke its neck through the hole in that yoke sooner than a fool who has fallen to the underworld would be reborn as a human being, I say. Why is that? Because in that place there’s no principled or moral conduct, and no doing what is good and skillful. There they just prey on each other, preying on the weak.
And suppose that fool, after a very long time, returned to the human realm. They’d be reborn in a low class family—a family of outcastes, hunters, bamboo-workers, chariot-makers, or waste-collectors. Such families are poor, with little to eat or drink, where life is tough, and food and shelter are hard to find. And they’d be ugly, unsightly, deformed, chronically ill—one-eyed, crippled, lame, or half-paralyzed. They don’t get to have food, drink, clothes, and vehicles; garlands, perfumes, and makeup; or bed, house, and lighting. And they do bad things by way of body, speech, and mind. When their body breaks up, after death, they’re reborn in a place of loss, a bad place, the underworld, hell.
Suppose a gambler on the first unlucky throw were to lose his wife and child, all his property, and then get thrown in jail. But such an unlucky throw is trivial compared to the unlucky throw whereby a fool, having done bad things by way of body, speech, and mind, when their body breaks up, after death, is reborn in a place of loss, a bad place, the underworld, hell. This is the total fulfillment of the fool’s level…