ที่เดิน-ยืน-นั่ง-นอนอันเป็นทิพย์
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในโกศลชนบทพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก เสด็จถึงพราหมณคามแห่งชาวโกศลชื่อ เวนาคปุระ พราหมณ์คหบดีชาวเวนาคปุระได้ยินข่าวมาว่า พระสมณโคดม บุตรของเจ้าศากยะ ทรงผนวชจากศากยสกุลแล้ว เสด็จมาถึงเวนาคปุระโดยลำดับ ก็กิตติศัพท์อันงามของท่านพระโคดมนั้น ขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคนั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม พระองค์ทรงรู้แจ้งชัดโลกนี้ พร้อมทั้ง
เทวโลก มารโลก พรหมโลก และหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์ด้วย
พระปัญญาอันยิ่งเองแล้ว จึงประกาศให้ผู้อื่นรู้ตาม (พระองค์ทรงรู้แจ้งชัดโลกนี้ พร้อมทั้ง
เทวโลก มารโลก พรหมโลก ด้วยพระปัญญาอันยิ่งเองแล้ว จึงสั่งสอนหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์ให้รู้ตาม) พระองค์ทรงแสดงธรรมอันงดงามในเบื้องต้น งดงามในท่ามกลาง งดงามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถพร้อมทั้งพยัญชนะบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ก็การได้เห็นพระอรหันต์ทั้งหลายเห็นปานนั้น ย่อมเป็นความดีแล
ครั้งนั้น พราหมณ์และคหบดีชาวเวนาคปุระได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ บางพวกถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้วนั่งลงในที่สมควร บางพวกได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้วก็นั่งลงในที่สมควร บางพวกประนมมือไหว้ไปทางพระผู้มีพระภาคแล้วก็นั่งลงในที่สมควร บางพวกประกาศชื่อและโคตรแล้วก็นั่งลงในที่สมควร บางพวกนั่งนิ่งอยู่ในที่สมควร ครั้นแล้ว พราหมณ์วัจฉโคตรชาวเวนาคปุระ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้อนี้น่าอัศจรรย์ ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้อนี้ไม่เคยมีมาก่อน อินทรีย์ของท่านพระโคดมผ่องใสยิ่งนัก พระฉวีวรรณของท่านพระโคดมบริสุทธิ์ผุดผ่อง ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อินทรีย์ของท่านพระโคดมผ่องใส พระฉวีวรรณของท่านพระโคดมบริสุทธิ์
ผุดผ่อง เหมือนกับผลพุทราสุกที่มีในฤดูสารทอันเป็นของบริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็ฉันนั้นเหมือนกัน.
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อินทรีย์ของท่านพระโคดมผ่องใส พระฉวีวรรณของท่าน
พระโคดมบริสุทธิ์ผุดผ่อง เหมือนผลตาลสุกที่หลุดจากขั้วอันเป็นของบริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อินทรีย์ของท่านพระโคดมผ่องใส พระฉวีวรรณของท่าน
พระโคดมบริสุทธิ์ผุดผ่อง เหมือนกับแท่งทองชมพูนุชที่บุตรนายช่างทองผู้ขยันหลอมดีแล้ว อันนายช่างทองผู้ฉลาดบุดีแล้ว วางไว้บนผ้ากัมพลเหลือง ส่องแสงประกาย สุกสะกาว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน.
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่เห็นปานนี้คือ เตียงมีเท้าเกินประมาณ เตียงมีเท้าทำเป็นรูปสัตว์ร้าย ผ้าโกเชาว์ขนยาว เครื่องลาดที่ทำด้วยขนแกะวิจิตรด้วยลวดลาย เครื่องลาดที่ทำด้วยขนแกะสีขาว เครื่องลาดที่มีสัณฐานเป็นช่อดอกไม้ เครื่องลาดที่ยัดนุ่น เครื่องลาดขนแกะ อันวิจิตรด้วยรูปสัตว์ร้ายมีสีหะและเสือเป็นต้น เครื่องลาดขนแกะมีขนตั้ง เครื่องลาดมีขนแกะข้างเดียว เครื่องลาดทองและเงินแกมไหม เครื่องลาดไหมขลิบทองและเงิน เครื่องลาดขนแกะบรรจุนางฟ้อนรำได้ ๑๖ คน เครื่องลาดหลังช้าง เครื่องลาดหลังม้า เครื่องลาดในรถ เครื่องลาดทำด้วยหนังสัตว์ชื่ออชินะอันมีขนอ่อนนุ่ม เครื่องลาดอย่างดีทำด้วยหนังชะมด เครื่องลาดมีเพดานด้านบน เครื่องลาดมีหมอนสีแดงวางไว้ทั้ง ๒ ข้าง ท่านพระโคดมได้ที่นอนที่นั่งสูงใหญ่เห็นปานนี้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบากเป็นแน่.
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ที่นอนที่นั่งอันสูงใหญ่เหล่านั้น คือเตียงมีเท้าเกินประมาณ … เครื่องลาดมีหมอนสีแดงวางไว้ทั้ง ๒ ข้าง เป็นสิ่งที่บรรพชิตหาได้ยาก และที่ได้มาแล้วก็ไม่ควรใช้สอย พราหมณ์ ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ ๓ ชนิดเหล่านี้ ทุกวันนี้เราได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ๓ ชนิด อะไรบ้าง คือ ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นทิพย์ ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นของพรหม ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นอริยะ พราหมณ์ ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ ๓ ชนิดนี้แล ทุกวันนี้ เราได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก.
ข้าแต่ท่านพระโคดมผู้เจริญ ก็ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นทิพย์ ซึ่งทุกวันนี้ท่าน
พระโคดมได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก นั้นเป็นอย่างไร.
พราหมณ์ ในกรณีนี้ เราอาศัยบ้านหรือนิคมแห่งใดอยู่ เวลาเช้าเรานุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตยังบ้านหรือนิคมแห่งนั้นแหละ เวลาหลังอาหารกลับจากบิณฑบาตแล้ว เข้าไปยังชายป่า กวาดหญ้าหรือใบไม้ซึ่งมีอยู่ ณ ที่นั้นให้เป็นกองแล้ว นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า เรานั้น เพราะสงัดจากกามและอกุศลธรรมทั้งหลาย จึงบรรลุปฐมฌาน อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดจากวิเวกแล้วแลอยู่ เพราะวิตกวิจารระงับไป จึงบรรลุทุติยฌาน อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุข อันเกิดจากสมาธิแล้วแลอยู่ เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ จึงอยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ และเสวยสุขด้วยกาย จึงบรรลุตติยฌาน อันพระอริยะกล่าวว่า ผู้นั้นเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุขแล้วแลอยู่ เพราะละสุขและทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน จึงบรรลุจตุตถฌาน อันไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความบริสุทธิ์แห่งสติเพราะอุเบกขาแล้วแลอยู่ พราหมณ์ ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้เดินจงกรมอยู่ ที่เดินจงกรมในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่เดินอันเป็นทิพย์ ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้ยืนอยู่ ที่ยืนในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่ยืนอันเป็นทิพย์ ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้นั่งอยู่ ที่นั่งในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่นั่งอันเป็นทิพย์ ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้นอนอยู่ ที่นอนอันสูงใหญ่ในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่นอนอันเป็นทิพย์ พราหมณ์ ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นทิพย์นี้แล ทุกวันนี้ เราได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก.
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้อนี้น่าอัศจรรย์ ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้อนี้ไม่เคยมีมาก่อน เพราะไม่มีใครคนอื่นนอกจากท่านพระโคดม จักได้ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นทิพย์เห็นปานนี้ ซึ่งได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ส่วนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นของพรหม ซึ่งทุกวันนี้ท่านพระโคดมได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก นั้นเป็นอย่างไร.
พราหมณ์ ในกรณีนี้ เราอาศัยบ้านหรือนิคมแห่งใดอยู่ เวลาเช้าเรานุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตยังบ้านหรือนิคมแห่งนั้นแหละ เวลาหลังอาหารกลับจากบิณฑบาตแล้ว เข้าไปยังชายป่า กวาดหญ้าหรือใบไม้ซึ่ง มีอยู่ ณ ที่นั้นให้เป็นกองแล้ว นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า เรานั้น มีจิตประกอบด้วยเมตตา แผ่ไปสู่ทิศที่หนึ่ง ทิศที่สอง ทิศที่สาม ทิศที่สี่ ก็เหมือนกันอย่างนั้น ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลกทั้งสิ้น ในที่ทั้งปวง แก่สัตว์ทั้งหลายทั่วหน้าเสมอกัน ด้วยจิตอันประกอบด้วยเมตตา เป็นจิตไพบูลย์ ใหญ่หลวง ไม่มีประมาณ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทแล้วแลอยู่ มีจิตประกอบด้วยกรุณา แผ่ไปสู่ทิศที่หนึ่ง ทิศที่สอง ทิศที่สาม ทิศที่สี่ ก็เหมือนกันอย่างนั้น ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลกทั้งสิ้น ในที่ทั้งปวง แก่สัตว์ทั้งหลายทั่วหน้าเสมอกัน ด้วยจิตอันประกอบด้วยกรุณา เป็นจิตไพบูลย์ ใหญ่หลวง ไม่มีประมาณ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทแล้วแลอยู่ มีจิตประกอบด้วยมุทิตา แผ่ไปสู่ทิศที่หนึ่ง ทิศที่สอง ทิศที่สาม ทิศที่สี่ ก็เหมือนกันอย่างนั้น ทั้งเบื้องบน เบื้องล่างและเบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลกทั้งสิ้น ในที่ทั้งปวง แก่สัตว์ทั้งหลายทั่วหน้าเสมอกัน ด้วยจิตอันประกอบด้วยมุทิตา เป็นจิตไพบูลย์ ใหญ่หลวง ไม่มีประมาณ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทแล้วแลอยู่ มีจิตประกอบด้วยอุเบกขา แผ่ไปสู่ทิศที่หนึ่ง ทิศที่สอง ทิศที่สาม ทิศที่สี่ ก็เหมือนกันอย่างนั้น ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลกทั้งสิ้น ในที่ทั้งปวง แก่สัตว์ทั้งหลายทั่วหน้าเสมอกัน ด้วยจิตอันประกอบด้วยอุเบกขา เป็นจิตไพบูลย์ ใหญ่หลวง ไม่มีประมาณ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทแล้วแลอยู่ พราหมณ์ ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้เดินจงกรมอยู่ ที่เดินจงกรมในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่เดินอันเป็นของพรหม ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้ยืนอยู่ ที่ยืนในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่ยืนอันเป็นของพรหม ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้นั่งอยู่ ที่นั่งในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่นั่งอันเป็นของพรหม ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้นอนอยู่ ที่นอนอันสูงใหญ่ในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่นอนอันเป็นเป็นของพรหม พราหมณ์ ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นของพรหมนี้แล ทุกวันนี้เราได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก.
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้อนี้น่าอัศจรรย์ ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้อนี้ไม่เคยมีมาก่อนเพราะไม่มีใครคนอื่นนอกจากท่านพระโคดม จักได้ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นของพรหมเห็นปานนี้ ซึ่งได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ส่วนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นอริยะ ซึ่งทุกวันนี้ท่านพระโคดมได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก นั้นเป็นอย่างไร.
พราหมณ์ ในกรณีนี้ เราอาศัยบ้านหรือนิคมแห่งใดอยู่ เวลาเช้าเรานุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตยังบ้านหรือนิคมแห่งนั้นแหละ เวลาหลังอาหารกลับจากบิณฑบาตแล้ว เข้าไปยังชายป่า กวาดหญ้าหรือใบไม้ซึ่ง มีอยู่ ณ ที่นั้นให้เป็นกองแล้ว นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า เรานั้นรู้ชัดอย่างนี้ว่า ราคะเราละได้ขาดแล้ว ถอนรากขึ้นแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา โทสะเราละได้ขาดแล้ว ถอนรากขึ้นแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา โมหะเราละได้ขาดแล้ว ถอนรากขึ้นแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา พราหมณ์ ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้เดินจงกรมอยู่ ที่เดินจงกรมในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่เดินอันเป็นอริยะ ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้ยืนอยู่ ที่ยืนในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่ยืนอันเป็นอริยะ ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้นั่งอยู่ ที่นั่งในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่นั่งอันเป็นอริยะ ถ้าเราผู้เป็นเช่นนี้นอนอยู่ ที่นอนอันสูงใหญ่ในสมัยนั้นของเรา ชื่อว่าที่นอนอันเป็นอริยะ พราหมณ์ ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นอริยะนี้แล ทุกวันนี้เราได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก.
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้อนี้น่าอัศจรรย์ ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้อนี้ไม่เคยมีมาก่อน เพราะไม่มีใครคนอื่นนอกจากท่านพระโคดม จักได้ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่อันเป็นอริยะเห็นปานนี้ ซึ่งได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนผู้หลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยหวังว่า คนมีตาดีจะได้มองเห็นรูป ดังนี้ ท่านพระโคดมทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยายอย่างนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์เหล่านี้ ขอถึงท่านพระโคดม กับทั้งพระธรรม และทั้งพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอท่านพระโคดมโปรดทรงจำข้าพระองค์ทั้งหลายว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.
-บาลี ติก. อํ. 20/231/503.
https://84000.org/tipitaka/pali/?20//231
https://etipitaka.com/read/pali/20/231/
English translation by Bhikkhu Sujato
At one time the Buddha was wandering in the land of the Kosalans together with a large Saṅgha of mendicants when he arrived at a village of the Kosalan brahmins named Venāgapura. The brahmins and householders of Venāgapura heard:
“It seems the ascetic Gotama—a Sakyan, gone forth from a Sakyan family—has arrived at Venāgapura. He has this good reputation: ‘That Blessed One is perfected, a fully awakened Buddha, accomplished in knowledge and conduct, holy, knower of the world, supreme guide for those who wish to train, teacher of gods and humans, awakened, blessed.’ He has realized with his own insight this world—with its gods, Māras and Brahmās, this population with its ascetics and brahmins, gods and humans—and he makes it known to others. He teaches Dhamma that’s good in the beginning, good in the middle, and good in the end, meaningful and well-phrased. And he reveals a spiritual practice that’s entirely full and pure. It’s good to see such perfected ones.”
Then the brahmins and householders of Venāgapura went up to the Buddha. Before sitting down to one side, some bowed, some exchanged greetings and polite conversation, some held up their joined palms toward the Buddha, some announced their name and clan, while some kept silent. Then the brahmin Vacchagotta of Venāgapura said to the Buddha:
“It’s incredible, Master Gotama, it’s amazing, how your faculties are so very clear, and the complexion of your skin is pure and bright. It’s like a golden brown jujube in the autumn, or a palm fruit freshly plucked from the stalk, or a pendant of river gold, fashioned by a deft smith, well-wrought in the forge, and placed on a cream rug where it shines and glows and radiates. In the same way, your faculties are so very clear, and the complexion of your skin is pure and bright.
Surely Master Gotama gets when he wants, without trouble or difficulty, various kinds of high and luxurious bedding, such as: sofas, couches, woolen covers—shag-piled, colorful, white, embroidered with flowers, quilted, embroidered with animals, double-or single-fringed—and silk covers studded with gems, as well as silken sheets, woven carpets, rugs for elephants, horses, or chariots, antelope hide rugs, and spreads of fine deer hide, with a canopy above and red cushions at both ends.”
“Brahmin, these various kinds of high and luxurious bedding are hard for renunciates to find. And even if they do get them, they’re not allowed.
There are, brahmin, these three high and luxurious beds that I get these days when I want, without trouble or difficulty. What three? The high and luxurious beds of the gods, of Brahmā, and of the noble ones. These are the three high and luxurious beds that I get these days when I want, without trouble or difficulty.”
“But what, Master Gotama, is the high and luxurious bed of the gods?”
“Brahmin, when I am living supported by a village or town, I robe up in the morning and, taking my bowl and robe, enter the town or village for alms. After the meal, on my return from almsround, I enter within a forest. I gather up some grass or leaves into a pile, and sit down cross-legged, with my body straight, and establish mindfulness right there. Quite secluded from sensual pleasures, secluded from unskillful qualities, I enter and remain in the first absorption, which has the rapture and bliss born of seclusion, while placing the mind and keeping it connected. As the placing of the mind and keeping it connected are stilled, I enter and remain in the second absorption, which has the rapture and bliss born of immersion, with internal clarity and confidence, and unified mind, without placing the mind and keeping it connected. And with the fading away of rapture, I enter and remain in the third absorption, where I meditate with equanimity, mindful and aware, personally experiencing the bliss of which the noble ones declare, ‘Equanimous and mindful, one meditates in bliss.’ With the giving up of pleasure and pain, and the ending of former happiness and sadness, I enter and remain in the fourth absorption, without pleasure or pain, with pure equanimity and mindfulness. When I’m practicing like this, if I walk, at that time I walk like the gods. When I’m practicing like this, if I stand, at that time I stand like the gods. When I’m practicing like this, if I sit, at that time I sit like the gods. When I’m practicing like this, if I lie down, at that time I lie down like the gods. This is the high and luxurious bed of the gods that I get these days when I want, without trouble or difficulty.”
“It’s incredible, Master Gotama, it’s amazing! Who but Master Gotama could get such a high and luxurious bed of the gods when he wants, without trouble or difficulty?
But what, Master Gotama, is the high and luxurious bed of Brahmā?”
“Brahmin, when I am living supported by a village or town, I robe up in the morning and, taking my bowl and robe, enter the town or village for alms. After the meal, on my return from almsround, I enter within a forest. I gather up some grass or leaves into a pile, and sit down cross-legged, with my body straight, and establish mindfulness right there. I meditate spreading a heart full of love to one direction, and to the second, and to the third, and to the fourth. In the same way above, below, across, everywhere, all around, I spread a heart full of love to the whole world—abundant, expansive, limitless, free of enmity and ill will. I meditate spreading a heart full of compassion to one direction, and to the second, and to the third, and to the fourth. In the same way above, below, across, everywhere, all around, I spread a heart full of compassion to the whole world—abundant, expansive, limitless, free of enmity and ill will. I meditate spreading a heart full of rejoicing to one direction, and to the second, and to the third, and to the fourth. In the same way above, below, across, everywhere, all around, I spread a heart full of rejoicing to the whole world—abundant, expansive, limitless, free of enmity and ill will. I meditate spreading a heart full of equanimity to one direction, and to the second, and to the third, and to the fourth. In the same way above, below, across, everywhere, all around, I spread a heart full of equanimity to the whole world—abundant, expansive, limitless, free of enmity and ill will. When I’m practicing like this, if I walk, at that time I walk like Brahmā. … I stand like Brahmā. … I sit like Brahmā … When I’m practicing like this, if I lie down, at that time I lie down like Brahmā. This is the high and luxurious bed of Brahmā that I get these days when I want, without trouble or difficulty.”
“It’s incredible, Master Gotama, it’s amazing! Who but Master Gotama could get such a high and luxurious bed of Brahmā when he wants, without trouble or difficulty?
But what, Master Gotama, is the high and luxurious bed of the noble ones?”
“Brahmin, when I am living supported by a village or town, I robe up in the morning and, taking my bowl and robe, enter the town or village for alms. After the meal, on my return from almsround, I enter within a forest. I gather up some grass or leaves into a pile, and sit down cross-legged, with my body straight, and establish mindfulness right there. I know this: ‘I’ve given up greed, hate, and delusion, cut them off at the root, made them like a palm stump, obliterated them, so they’re unable to arise in the future.’ When I’m practicing like this, if I walk, at that time I walk like the noble ones. … I stand like the noble ones … I sit like the noble ones … When I’m practicing like this, if I lie down, at that time I lie down like the noble ones. This is the high and luxurious bed of the noble ones that I get these days when I want, without trouble or difficulty.”
“It’s incredible, Master Gotama, it’s amazing! Who but Master Gotama could get such a high and luxurious bed of the noble ones when he wants, without trouble or difficulty?
Excellent, Master Gotama! Excellent! As if he were righting the overturned, or revealing the hidden, or pointing out the path to the lost, or lighting a lamp in the dark so people with good eyes can see what’s there, Master Gotama has made the teaching clear in many ways. We go for refuge to Master Gotama, to the teaching, and to the mendicant Saṅgha. From this day forth, may Master Gotama remember us as lay followers who have gone for refuge for life.”
English translation by Bhikkhu Bodhi
On one occasion the Blessed One was wandering on tour among the Kosalans together with a large Saṅgha of bhikkhus when he reached the Kosalan brahmin village named Venāgapura. The brahmin householders of Venāgapura heard: “It is said that the ascetic Gotama, the son of the Sakyans who went forth from a Sakyan family, has arrived at Venāgapura. Now a good report about that Master Gotama has circulated thus: ‘That Blessed One is an arahant, perfectly enlightened, accomplished in true knowledge and conduct, fortunate, knower of the world, unsurpassed leader of persons to be tamed, teacher of devas and humans, the Enlightened One, the Blessed One. Having realized by his own direct knowledge this world with its devas, Māra, and Brahmā, this population with its ascetics and brahmins, its devas and humans, he makes it known to others. He teaches a Dhamma that is good in the beginning, good in the middle, and good in the end, with the right meaning and phrasing; he reveals a spiritual life that is perfectly complete and pure.’ Now it is good to see such arahants.”
Then the brahmin householders of Venāgapura approached the Blessed One. Some paid homage to the Blessed One and sat down to one side; some exchanged greetings with him and, when they had concluded their greetings and cordial talk, sat down to one side; some reverentially saluted him and sat down to one side; some pronounced their name and clan and sat down to one side; some kept silent and sat down to one side. The brahmin Vacchagotta of Venāgapura then said to the Blessed One:
“It is astounding and amazing, Master Gotama, how Master Gotama’s faculties are tranquil and the color of his skin is pure and bright. Just as a yellow jujube fruit in the autumn is pure and bright, so Master Gotama’s faculties are tranquil and the color of his skin is pure and bright. Just as a palm fruit that has just been removed from its stalk is pure and bright, so Master Gotama’s faculties are tranquil and the color of his skin is pure and bright. Just as an ornament of finest gold, well prepared by a skilled goldsmith and very skillfully wrought in the furnace, placed on red brocade, shines and beams and radiates, so Master Gotama’s faculties are tranquil and the color of his skin is pure and bright.
“Whatever high and luxurious kinds of bedding there are—that is, a sofa, a divan, a long-haired coverlet, a coverlet of diverse colors, a white coverlet, a woolen coverlet with floral designs, a quilt of cotton wool, a woolen coverlet ornamented with animal figures, a woolen coverlet with double borders, a woolen coverlet with a single border, a silken sheet studded with gems, a sheet made with silk threads and studded with gems, a dancer’s rug, an elephant rug, a horse rug, a chariot rug, a rug of antelope hide, a spread made of the hide of the kadali-deer, a bed with a canopy above and red bolsters at both ends—Master Gotama surely gains them at will, without trouble or difficulty.”
“Brahmin, those high and luxurious kinds of bedding are rarely obtained by those who have gone forth, and if they are obtained, they are not allowed.
“But, brahmin, there are three kinds of high and luxurious beds that at present I gain at will, without trouble or difficulty. What three? The celestial high and luxurious bed, the divine high and luxurious bed, and the noble high and luxurious bed. These are the three kinds of high and luxurious beds that at present I gain at will, without trouble or difficulty.”
(1) “But, Master Gotama, what is the celestial high and luxurious bed that at present you gain at will, without trouble or difficulty?”
“Here, brahmin, when I am dwelling in dependence on a village or town, in the morning I dress, take my bowl and robe, and enter that village or town for alms. After the meal, when I have returned from the alms round, I enter a grove. I collect some grass or leaves that I find there into a pile and then sit down. Having folded my legs crosswise and straightened my body, I establish mindfulness in front of me. Then, secluded from sensual pleasures, secluded from unwholesome states, I enter and dwell in the first jhāna, which consists of rapture and pleasure born of seclusion, accompanied by thought and examination. With the subsiding of thought and examination, I enter and dwell in the second jhāna, which has internal placidity and unification of mind and consists of rapture and pleasure born of concentration, without thought and examination. With the fading away as well of rapture, I dwell equanimous and, mindful and clearly comprehending, I experience pleasure with the body; I enter and dwell in the third jhāna of which the noble ones declare: ‘He is equanimous, mindful, one who dwells happily.’ With the abandoning of pleasure and pain, and with the previous passing away of joy and dejection, I enter and dwell in the fourth jhāna, neither painful nor pleasant, which has purification of mindfulness by equanimity.
“Then, brahmin, when I am in such a state, if I walk back and forth, on that occasion my walking back and forth is celestial. If I am standing, on that occasion my standing is celestial. If I am sitting, on that occasion my sitting is celestial. If I lie down, on that occasion this is my celestial high and luxurious bed. This is that celestial high and luxurious bed that at present I can gain at will, without trouble or difficulty.”
“It is astounding and amazing, Master Gotama! Who else, apart from Master Gotama, can gain at will, without trouble or difficulty, such a celestial high and luxurious bed?
(2) “But, Master Gotama, what is the divine high and luxurious bed that at present you gain at will, without trouble or difficulty?”
“Here, brahmin, when I am dwelling in dependence on a village or town, in the morning I dress, take my bowl and robe, and enter that village or town for alms. After the meal, when I have returned from the alms round, I enter a grove. I collect some grass or leaves that I find there into a pile and then sit down. Having folded my legs crosswise and straightened my body, I establish mindfulness in front of me. Then I dwell pervading one quarter with a mind imbued with loving-kindness, likewise the second quarter, the third quarter, and the fourth quarter. Thus above, below, across, and everywhere, and to all as to myself, I dwell pervading the entire world with a mind imbued with loving-kindness, vast, exalted, measureless, without enmity, without ill will. I dwell pervading one quarter with a mind imbued with compassion … with a mind imbued with altruistic joy … with a mind imbued with equanimity, likewise the second quarter, the third quarter, and the fourth quarter. Thus above, below, across, and everywhere, and to all as to myself, I dwell pervading the entire world with a mind imbued with equanimity, vast, exalted, measureless, without enmity, without ill will.
“Then, brahmin, when I am in such a state, if I walk back and forth, on that occasion my walking back and forth is divine. If I am standing, on that occasion my standing is divine. If I am sitting, on that occasion my sitting is divine. If I lie down, on that occasion this is my divine high and luxurious bed. This is that divine high and luxurious bed that at present I can gain at will, without trouble or difficulty.”
“It is astounding and amazing, Master Gotama! Who else, apart from Master Gotama, can gain at will, without trouble or difficulty, such a high and luxurious bed?
(3) “But, Master Gotama, what is the noble high and luxurious bed that at present you gain at will, without trouble or difficulty?”
“Here, brahmin, when I am dwelling in dependence on a village or town, in the morning I dress, take my bowl and robe, and enter that village or town for alms. After the meal, when I have returned from the alms round, I enter a grove. I collect some grass or leaves that I find there into a pile and then sit down. Having folded my legs crosswise and straightened my body, I establish mindfulness in front of me. Then I understand thus: ‘I have abandoned greed, cut it off at the root, made it like a palm stump, obliterated it so that it is no more subject to future arising. I have abandoned hatred, cut it off at the root, made it like a palm stump, obliterated it so that it is no more subject to future arising. I have abandoned delusion, cut it off at the root, made it like a palm stump, obliterated it so that it is no more subject to future arising.’
“Then, brahmin, when I am in such a state, if I walk back and forth, on that occasion my walking back and forth is noble. If I am standing, on that occasion my standing is noble. If I am sitting, on that occasion my sitting is noble. If I lie down, on that occasion this is my noble high and luxurious bed. This is that noble high and luxurious bed that at present I can gain at will, without trouble or difficulty.”
“It is astounding and amazing, Master Gotama! Who else, apart from Master Gotama, can gain at will, without trouble or difficulty, such a noble high and luxurious bed?
“Excellent, Master Gotama! Excellent, Master Gotama! Master Gotama has made the Dhamma clear in many ways, as though he were turning upright what had been overthrown, revealing what was hidden, showing the way to one who was lost, or holding up a lamp in the darkness so those with good eyesight can see forms. We now go for refuge to Master Gotama, to the Dhamma, and to the Saṅgha of bhikkhus. Let Master Gotama consider us lay followers who from today have gone for refuge for life.”