ธรรมเครื่องขูดเกลากิเลส
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น เวลาเย็น ท่านพระมหาจุนทะออกจากที่หลีกเร้น แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายอภิวาทแล้วนั่งในที่สมควร ท่านพระมหาจุนทะนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาค ดังนี้ว่า
ภันเต ทิฏฐิเหล่านี้มีหลายประการ เกิดขึ้นอยู่ในโลก อันเกี่ยวกับการกล่าวปรารภอัตตาบ้าง (อัตตวาทะ) เกี่ยวกับการกล่าวปรารภโลกบ้าง (โลกวาทะ) เมื่อภิกษุมนสิการ 1 เพียงเบื้องต้นเท่านั้น การละทิฏฐิเหล่านั้น การสละคืนทิฏฐิเหล่านั้น ก็ย่อมมีได้อย่างนั้นหรือ.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า จุนทะ ทิฏฐิเหล่านี้มีหลายประการ เกิดอยู่ขึ้นในโลก อันเกี่ยวกับการกล่าวปรารภอัตตาบ้าง เกี่ยวกับการกล่าวปรารภโลกบ้าง ก็ทิฏฐิเหล่านั้นย่อมเกิดขึ้นในอารมณ์ใด นอนเนื่องอยู่ในอารมณ์ใด และท่องเที่ยวอยู่ในอารมณ์ใด เมื่อภิกษุพิจารณาเห็นอารมณ์นั้น ด้วยปัญญาอันถูกต้องตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ดังนี้ การละทิฏฐิเหล่านั้น การสละคืนทิฏฐิเหล่านั้น ย่อมมีได้ด้วยประการอย่างนี้.
จุนทะ ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ คือ ภิกษุบางรูปในกรณีนี้ เพราะสงัดจากกามและอกุศลธรรมทั้งหลาย จึงบรรลุปฐมฌาน อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดจากวิเวกแล้วแลอยู่ ความคิดอาจจะมีแก่เธอนั้นอย่างนี้ว่า เราอยู่ด้วยธรรมเป็นเครื่องขูดเกลา ดังนี้ จุนทะ แต่ธรรมคือ ปฐมฌานนี้ เรายังไม่กล่าวว่า เป็นธรรมเครื่องขูดเกลาในอริยวินัย กล่าวแต่เพียงว่า เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฎฐธรรม (ปัจจุบัน) ในอริยวินัย.
จุนทะ อนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ คือ ภิกษุบางรูปในกรณีนี้ เพราะวิตกวิจารระงับไป จึงบรรลุทุติยฌาน อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุข อันเกิดจากสมาธิแล้วแลอยู่ ความคิดอาจจะมีแก่เธอนั้นอย่างนี้ว่า เราอยู่ด้วยธรรมเครื่องขูดเกลา ดังนี้ จุนทะ แต่ธรรมคือ ทุติยฌานนี้ เรายังไม่กล่าวว่า เป็นธรรมเครื่องขูดเกลาในอริยวินัย กล่าวแต่เพียงว่า เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฎฐธรรมในอริยวินัย.
จุนทะ อนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ คือ ภิกษุบางรูปในกรณีนี้ เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ จึงอยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ และเสวยสุขด้วยกาย จึงบรรลุตติยฌาน อันพระอริยะกล่าวว่า ผู้นั้นเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุขแล้วแลอยู่ ความคิดอาจจะมีแก่เธอนั้นอย่างนี้ว่า เราอยู่ด้วยธรรมเครื่องขูดเกลา ดังนี้ จุนทะ แต่ธรรมคือ ตติยฌานนี้ เรายังไม่กล่าวว่า เป็นธรรมเครื่องขูดเกลาในอริยวินัย กล่าวแต่เพียงว่า เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฎฐธรรมในอริยวินัย.
จุนทะ อนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ คือ ภิกษุบางรูปในกรณีนี้ เพราะละสุขและทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน จึงบรรลุจตุตถฌาน อันไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความบริสุทธิ์แห่งสติเพราะอุเบกขาแล้วแลอยู่ ความคิดอาจจะมีแก่เธอนั้นอย่างนี้ว่า เราอยู่ด้วยธรรมเครื่องขูดเกลา ดังนี้ จุนทะ แต่ธรรมคือ จตุตถฌานนี้ เรายังไม่กล่าวว่า เป็นธรรมเครื่องขูดเกลาในอริยวินัย กล่าวแต่เพียงว่า เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฎฐธรรมในอริยวินัย.
จุนทะ อนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ คือ ภิกษุบางรูปในกรณีนี้ เพราะก้าวล่วงเสียได้ซึ่งรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง เพราะความดับไปแห่งปฏิฆสัญญา เพราะการไม่ทำไว้ในใจซึ่งนานัตตสัญญา จึงบรรลุอากาสานัญจายตนะ อันมีการทำในใจว่า อากาศไม่มีที่สุด ดังนี้แล้วแลอยู่ ความคิดอาจจะมีแก่เธอนั้นอย่างนี้ว่า เราอยู่ด้วยธรรมเครื่องขูดเกลา ดังนี้ จุนทะ แต่ธรรมคือ อากาสานัญจายตนะนี้ เรายังไม่กล่าวว่า เป็นธรรมเครื่องขูดเกลาในอริยวินัย กล่าวแต่เพียงว่า เป็นธรรมเครื่องอยู่สงบในอริยวินัย.
จุนทะ อนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ คือ ภิกษุบางรูปในกรณีนี้ เพราะก้าวล่วงเสียได้ซึ่งอากาสานัญจายตนะโดยประการทั้งปวง จึงบรรลุวิญญาณัญจายตนะ อันมีการทำในใจว่า วิญญาณไม่มีที่สุด ดังนี้แล้วแลอยู่ ความคิดอาจจะมีแก่เธอนั้นอย่างนี้ว่า เราอยู่ด้วยธรรมเครื่องขูดเกลา ดังนี้ จุนทะ แต่ธรรมคือ วิญญาณัญจายตนะนี้ เรายังไม่กล่าวว่า เป็นธรรมเครื่องขูดเกลาในอริยวินัย กล่าวแต่เพียงว่า เป็นธรรมเครื่องอยู่สงบในอริยวินัย.
จุนทะ อนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ คือ ภิกษุบางรูปในกรณีนี้ เพราะก้าวล่วงเสียได้ซึ่งวิญญาณัญจายตนะโดยประการทั้งปวง จึงบรรลุอากิญจัญญายตนะ อันมีการทำในใจว่า อะไร ๆ ไม่มี ดังนี้แล้วแลอยู่ ความคิดอาจจะมีแก่เธอนั้นอย่างนี้ว่า เราอยู่ด้วยธรรมเครื่องขูดเกลา ดังนี้ จุนทะ แต่ธรรมคือ อากิญจัญญายตนะนี้ เรายังไม่กล่าวว่า เป็นธรรมเครื่องขูดเกลาในอริยวินัย กล่าวแต่เพียงว่าเป็นธรรมเครื่องอยู่สงบในอริยวินัย.
จุนทะ อนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ คือ ภิกษุบางรูปในกรณีนี้ เพราะก้าวล่วงเสียได้ซึ่งอากิญจัญญายตนะโดยประการทั้งปวง จึงบรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนะแล้วแลอยู่ ความคิดอาจจะมีแก่เธอนั้นอย่างนี้ว่า เราอยู่ด้วยธรรมเครื่องขูดเกลา ดังนี้ จุนทะ แต่ธรรมคือ เนวสัญญานาสัญญายตนะนี้ เรายังไม่กล่าวว่า เป็นธรรมเครื่องขูดเกลาในอริยวินัย กล่าวแต่เพียงว่าเป็นธรรมเครื่องอยู่สงบในอริยวินัย.
จุนทะ สัลเลขธรรม (ความขูดเกลากิเลส) เป็นสิ่งที่เธอทั้งหลายพึงกระทำ ในธรรมทั้งหลายเหล่านี้ กล่าวคือ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้เบียดเบียน เราจักเป็นผู้ไม่เบียดเบียน
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ฆ่าสัตว์ เราจักเว้นขาดการฆ่าสัตว์
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ลักทรัพย์ เราจักเว้นขาดจากการลักทรัพย์
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นไม่ประพฤติพรหมจรรย์ เราจักเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นพูดเท็จ เราจักเว้นขาดจากการพูดท็จ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นพูดส่อเสียด เราจักเว้นขาดจากการพูดส่อเสียด
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นพูดคำหยาบ เราจักเว้นขาดจากการพูดคำหยาบ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นพูดเพ้อเจ้อ เราจักเว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมากด้วยอภิชฌา (เพ่งเล็งทรัพย์) เราจักเป็นผู้ไม่มากด้วยอภิชฌา
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีจิตพยาบาท เราจักเป็นผู้มีจิตไม่พยาบาท
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีมิจฉาทิฏิฐิ เราจักเป็นผู้มีสัมมาทิฏิฐิ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีมิจฉาสังกัปปะ เราจักเป็นผู้มีสัมมาสังกัปปะ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีมิจฉาวาจา เราจักเป็นผู้มีสัมมาวาจา
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีมิจฉากัมมันตะ เราจักเป็นผู้มีสัมมากัมมันตะ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีมิจฉาอาชีวะ เราจักเป็นผู้มีสัมมาอาชีวะ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีมิจฉาวายามะ เราจักเป็นผู้มีสัมมาวายามะ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีมิจฉาสติ เราจักเป็นผู้มีสัมมาสติ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีมิจฉาสมาธิ เราจักเป็นผู้มีสัมมาสมาธิ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีมิจฉาญาณะ เราจักเป็นผู้มีสัมมาญาณะ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีมิจฉาวิมุตติ เราจักเป็นผู้มีสัมมาวิมุตติ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีถีนมิทธะกลุ้มรุม เราจักเป็นผู้ปราศจากถีนมิทธะ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ฟุ้งซ่าน เราจักเป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นมีวิจิกิจฉา เราจักเป็นผู้ข้ามพ้นวิจิกิจฉา
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้มักโกรธ เราจักเป็นผู้ไม่มักโกรธ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ผูกโกรธ เราจักเป็นผู้ไม่ผูกโกรธ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ลบหลู่คุณ เราจักเป็นผู้ไม่ลบหลู่คุณ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้แข่งดี เราจักเป็นผู้ไม่แข่งดี
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ริษยา เราจักเป็นผู้ไม่ริษยา
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ตระหนี่ เราจักเป็นผู้ไม่ตระหนี่
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้โอ้อวด เราจักเป็นผู้ไม่โอ้อวด
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้มีมารยา เราจักเป็นผู้ไม่มีมารยา
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้กระด้าง เราจักเป็นผู้ไม่กระด้าง
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ดูหมิ่นท่าน เราจักเป็นผู้ไม่ดูหมิ่นท่าน
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ว่ายาก เราจักเป็นผู้ว่าง่าย
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้มีมิตรชั่ว เราจักเป็นผู้มีมิตรดี
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ประมาท เราจักเป็นผู้ไม่ประมาท
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ไม่มีสัทธา เราจักเป็นผู้มีสัทธา
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ไม่มีหิริ เราจักเป็นผู้มีหิริ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ เราจักเป็นผู้มีโอตตัปปะ
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้มีสุตะน้อย เราจักเป็นผู้มีสุตะมาก
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ขี้เกียจ เราจักเป็นผู้ปรารภความเพียร
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้มีสติหลงลืม เราจักเป็นผู้มีสติตั้งมั่น
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้มีปัญญาทราม เราจักเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา
ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (สนฺทิฏฺฐิปรามาสี) เป็นผู้ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อาธานคาหี) และเป็นผู้ยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน (ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี) เราจักเป็นผู้ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (อสนฺทิฏฺฐิปรามาสี) เป็นผู้ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อนาธานคาหี) และเป็นผู้ง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปทาน (สุปฺปฏินิสฺสคฺคี).
-บาลี มู. ม. 12/72/100.
https://84000.org/tipitaka/pali/?12//72
https://etipitaka.com/read/pali/12/75
English translation by Bhikkhu Sujato
So I have heard. At one time the Buddha was staying near Sāvatthī in Jeta’s Grove, Anāthapiṇḍika’s monastery.
Then in the late afternoon, Venerable Mahācunda came out of retreat and went to the Buddha. He bowed, sat down to one side, and said to the Buddha:
“Sir, there are many different views that arise in the world connected with doctrines of the self or with doctrines of the cosmos. How does a mendicant who is focusing on the starting point give up and let go of these views?”
“Cunda, there are many different views that arise in the world connected with doctrines of the self or with doctrines of the cosmos. A mendicant gives up and lets go of these views by truly seeing with right wisdom where they arise, where they settle in, and where they operate as: ‘This is not mine, I am not this, this is not my self.’
It’s possible that a certain mendicant, quite secluded from sensual pleasures, secluded from unskillful qualities, might enter and remain in the first absorption, which has the rapture and bliss born of seclusion, while placing the mind and keeping it connected. They might think they’re practicing self-effacement. But in the training of the Noble One these are not called ‘self-effacement’; they’re called ‘blissful meditations in the present life’.
It’s possible that some mendicant, as the placing of the mind and keeping it connected are stilled, might enter and remain in the second absorption, which has the rapture and bliss born of immersion, with internal clarity and confidence, and unified mind, without placing the mind and keeping it connected. They might think they’re practicing self-effacement. But in the training of the Noble One these are not called ‘self-effacement’; they’re called ‘blissful meditations in the present life’.
It’s possible that some mendicant, with the fading away of rapture, might enter and remain in the third absorption, where they meditate with equanimity, mindful and aware, personally experiencing the bliss of which the noble ones declare, ‘Equanimous and mindful, one meditates in bliss.’ They might think they’re practicing self-effacement. But in the training of the Noble One these are not called ‘self-effacement’; they’re called ‘blissful meditations in the present life’.
It’s possible that some mendicant, with the giving up of pleasure and pain, and the ending of former happiness and sadness, might enter and remain in the fourth absorption, without pleasure or pain, with pure equanimity and mindfulness. They might think they’re practicing self-effacement. But in the training of the Noble One these are not called ‘self-effacement’; they’re called ‘blissful meditations in the present life’.
It’s possible that some mendicant, going totally beyond perceptions of form, with the ending of perceptions of impingement, not focusing on perceptions of diversity, aware that ‘space is infinite’, might enter and remain in the dimension of infinite space. They might think they’re practicing self-effacement. But in the training of the Noble One these are not called ‘self-effacement’; they’re called ‘peaceful meditations’.
It’s possible that some mendicant, going totally beyond the dimension of infinite space, aware that ‘consciousness is infinite’, might enter and remain in the dimension of infinite consciousness. They might think they’re practicing self-effacement. But in the training of the Noble One these are not called ‘self-effacement’; they’re called ‘peaceful meditations’.
It’s possible that some mendicant, going totally beyond the dimension of infinite consciousness, aware that ‘there is nothing at all’, might enter and remain in the dimension of nothingness. They might think they’re practicing self-effacement. But in the training of the Noble One these are not called ‘self-effacement’; they’re called ‘peaceful meditations’.
It’s possible that some mendicant, going totally beyond the dimension of nothingness, might enter and remain in the dimension of neither perception nor non-perception. They might think they’re practicing self-effacement. But in the training of the Noble One these are not called ‘self-effacement’; they’re called ‘peaceful meditations’.
1. The Exposition of Self-Effacement
Now, Cunda, you should work on self-effacement in each of the following ways.
‘Others will be cruel, but here we will not be cruel.’
‘Others will kill living creatures, but here we will not kill living creatures.’
‘Others will steal, but here we will not steal.’
‘Others will be unchaste, but here we will not be unchaste.’
‘Others will lie, but here we will not lie.’
‘Others will speak divisively, but here we will not speak divisively.’
‘Others will speak harshly, but here we will not speak harshly.’
‘Others will talk nonsense, but here we will not talk nonsense.’
‘Others will be covetous, but here we will not be covetous.’
‘Others will have ill will, but here we will not have ill will.’
‘Others will have wrong view, but here we will have right view.’
‘Others will have wrong thought, but here we will have right thought.’
‘Others will have wrong speech, but here we will have right speech.’
‘Others will have wrong action, but here we will have right action.’
‘Others will have wrong livelihood, but here we will have right livelihood.’
‘Others will have wrong effort, but here we will have right effort.’
‘Others will have wrong mindfulness, but here we will have right mindfulness.’
‘Others will have wrong immersion, but here we will have right immersion.’
‘Others will have wrong knowledge, but here we will have right knowledge.’
‘Others will have wrong freedom, but here we will have right freedom.’
‘Others will be overcome with dullness and drowsiness, but here we will be rid of dullness and drowsiness.’
‘Others will be restless, but here we will not be restless.’
‘Others will have doubts, but here we will have gone beyond doubt.’
‘Others will be irritable, but here we will be without anger.’
‘Others will be hostile, but here we will be without hostility.’
‘Others will be offensive, but here we will be inoffensive.’
‘Others will be contemptuous, but here we will be without contempt.’
‘Others will be jealous, but here we will be without jealousy.’
‘Others will be stingy, but here we will be without stinginess.’
‘Others will be devious, but here we will not be devious.’
‘Others will be deceitful, but here we will not be deceitful.’
‘Others will be pompous, but here we will not be pompous.’
‘Others will be arrogant, but here we will not be arrogant.’
‘Others will be hard to admonish, but here we will not be hard to admonish.’
‘Others will have bad friends, but here we will have good friends.’
‘Others will be negligent, but here we will be diligent.’
‘Others will be faithless, but here we will have faith.’
‘Others will be conscienceless, but here we will have a sense of conscience.’
‘Others will be imprudent, but here we will be prudent.’
‘Others will be unlearned, but here we will be well educated.’
‘Others will be lazy, but here we will be energetic.’
‘Others will be unmindful, but here we will be mindful.’
‘Others will be witless, but here we will be accomplished in wisdom.’
‘Others will be attached to their own views, holding them tight, and refusing to let go, but here we will not be attached to our own views, not holding them tight, but will let them go easily.’ …
English translation by Bhikkhu Bodhi
Thus have I heard. On one occasion the Blessed One was living at Sāvatthī in Jeta’s Grove, Anāthapiṇḍika’s Park.
Then, when it was evening, the venerable Mahā Cunda rose from meditation and went to the Blessed One. After paying homage to the Blessed One he sat down at one side and said to him:
“Venerable sir, various views arise in the world associated either with doctrines of a self or with doctrines about the world. Now does the abandoning and relinquishing of those views come about in a bhikkhu who is attending only to the beginning of his meditative training?”
“Cunda, as to those various views that arise in the world associated either with doctrines of a self or with doctrines about the world: if the object in relation to which those views arise, which they underlie, and which they are exercised upon is seen as it actually is with proper wisdom thus: ‘This is not mine, this I am not, this is not my self,’ then the abandoning and relinquishing of those views comes about.
The Eight Attainments
“It is possible here, Cunda, that quite secluded from sensual pleasures, secluded from unwholesome states, some bhikkhu enters upon and abides in the first jhāna, which is accompanied by applied and sustained thought, with rapture and pleasure born of seclusion. He might think thus: ‘I am abiding in effacement. ’ But it is not these attainments that are called ‘effacement’ in the Noble One’s Discipline: these are called ‘pleasant abidings here and now’ in the Noble One’s Discipline.
“It is possible here that with the stilling of applied and sustained thought, some bhikkhu enters upon and abides in the second jhāna, which has self-confidence and singleness of mind without applied and sustained thought, with rapture and pleasure born of concentration. He might think thus: ‘I am abiding in effacement.’ But…these are called ‘pleasant abidings here and now’ in the Noble One’s Discipline.
“It is possible here that with the fading away as well of rapture, some bhikkhu abides in equanimity, and mindful and fully aware, still feeling pleasure with the body, he enters upon and abides in the third jhāna, on account of which noble ones announce: ‘He has a pleasant abiding who has equanimity and is mindful.’ He might think thus: ‘I am abiding in effacement.’ But…these are called ‘pleasant abidings here and now’ in the Noble One’s Discipline.
“It is possible here that with the abandoning of pleasure and pain, and with the previous disappearance of joy and grief, some bhikkhu enters upon and abides in the fourth jhāna, which has neither-pain-nor-pleasure and purity of mindfulness due to equanimity. He might think thus: ‘I am abiding in effacement.’ But it is not these attainments that are called ‘effacement’ in the Noble One’s Discipline: these are called ‘pleasant abidings here and now’ in the Noble One’s Discipline.
“It is possible here that with the complete surmounting of perceptions of form, with the disappearance of perceptions of sensory impact, with non-attention to perceptions of diversity, aware that ‘space is infinite,’ some bhikkhu enters upon and abides in the base of infinite space. He might think thus: ‘I am abiding in effacement.’ But it is not these attainments that are called ‘effacement’ in the Noble One’s Discipline: these are called ‘peaceful abidings’ in the Noble One’s Discipline.
“It is possible here that by completely surmounting the base of infinite space, aware that ‘consciousness is infinite,’ some bhikkhu enters upon and abides in the base of infinite consciousness. He might think thus: ‘I am abiding in effacement.’ But…these are called ‘peaceful abidings’ in the Noble One’s Discipline.
“It is possible here that by completely surmounting the base of infinite consciousness, aware that ‘there is nothing,’ some bhikkhu enters upon and abides in the base of nothingness. He might think thus: ‘I am abiding in effacement.’ But…these are called ‘peaceful abidings’ in the Noble One’s Discipline.
“It is possible here that by completely surmounting the base of nothingness, some bhikkhu enters upon and abides in the base of neither-perception-nor-non-perception. He might think thus: ‘I am abiding in effacement.’ But these attainments are not called ‘effacement’ in the Noble One’s Discipline: these are called ‘peaceful abidings’ in the Noble One’s Discipline.
Effacement
“Now, Cunda, here effacement should be practised by you:
(1) ‘Others will be cruel; we shall not be cruel here’: effacement should be practised thus.
(2) ‘Others will kill living beings; we shall abstain from killing living beings here’: effacement should be practised thus.
(3) ‘Others will take what is not given; we shall abstain from taking what is not given here’: effacement should be practised thus.
(4) ‘Others will be uncelibate; we shall be celibate here’: effacement should be practised thus.
(5) ‘Others will speak falsehood; we shall abstain from false speech here’: effacement should be practised thus.
(6) ‘Others will speak maliciously; we shall abstain from malicious speech here’: effacement should be practised thus.
(7) ‘Others will speak harshly; we shall abstain from harsh speech here’: effacement should be practised thus.
(8) ‘Others will gossip; we shall abstain from gossip here’: effacement should be practised thus.
(9) ‘Others will be covetous; we shall be uncovetous here’: effacement should be practised thus.
(10) ‘Others will have ill will; we shall be without ill will here’: effacement should be practised thus.
(11) ‘Others will be of wrong view; we shall be of right view here’: effacement should be practised thus.
(12) ‘Others will be of wrong intention; we shall be of right intention here’: effacement should be practised thus.
(13) ‘Others will be of wrong speech; we shall be of right speech here’: effacement should be practised thus.
(14) ‘Others will be of wrong action; we shall be of right action here’: effacement should be practised thus.
(15) ‘Others will be of wrong livelihood; we shall be of right livelihood here’: effacement should be practised thus.
(16) ‘Others will be of wrong effort; we shall be of right effort here’: effacement should be practised thus.
(17) ‘Others will be of wrong mindfulness; we shall be of right mindfulness here’: effacement should be practised thus.
(18) ‘Others will be of wrong concentration; we shall be of right concentration here’: effacement should be practised thus.
(19) ‘Others will be of wrong knowledge; we shall be of right knowledge here’: effacement should be practised thus.
(20) ‘Others will be of wrong deliverance; we shall be of right deliverance here’: effacement should be practised thus.
(21) ‘Others will be overcome by sloth and torpor; we shall be free from sloth and torpor here’: effacement should be practised thus.
(22) ‘Others will be restless; we shall not be restless here’: effacement should be practised thus.
(23) ‘Others will be doubters; we shall go beyond doubt here’: effacement should be practised thus.
(24) ‘Others will be angry; we shall not be angry here’: effacement should be practised thus.
(25) ‘Others will be resentful; we shall not be resentful here’: effacement should be practised thus.
(26) ‘Others will be contemptuous; we shall not be contemptuous here’: effacement should be practised thus.
(27) ‘Others will be insolent; we shall not be insolent here’: effacement should be practised thus.
(28) ‘Others will be envious; we shall not be envious here’: effacement should be practised thus.
(29) ‘Others will be avaricious; we shall not be avaricious here’: effacement should be practised thus.
(30) ‘Others will be fraudulent; we shall not be fraudulent here’: effacement should be practised thus.
(31) ‘Others will be deceitful; we shall not be deceitful here’: effacement should be practised thus.
(32) ‘Others will be obstinate; we shall not be obstinate here’: effacement should be practised thus.
(33) ‘Others will be arrogant; we shall not be arrogant here’: effacement should be practised thus.
(34) ‘Others will be difficult to admonish; we shall be easy to admonish here’: effacement should be practised thus.
(35) ‘Others will have bad friends; we shall have good friends here’: effacement should be practised thus.
(36) ‘Others will be negligent; we shall be diligent here’: effacement should be practised thus.
(37) ‘Others will be faithless; we shall be faithful here’: effacement should be practised thus.
(38) ‘Others will be shameless; we shall be shameful here’: effacement should be practised thus.
(39) ‘Others will have no fear of wrongdoing; we shall be afraid of wrongdoing here’: effacement should be practised thus.
(40) ‘Others will be of little learning; we shall be of great learning here’: effacement should be practised thus.
(41) ‘Others will be lazy; we shall be energetic here’: effacement should be practised thus.
(42) ‘Others will be unmindful; we shall be established in mindfulness here’: effacement should be practised thus.
(43) ‘Others will lack wisdom; we shall possess wisdom here’: effacement should be practised thus.
(44) ‘Others will adhere to their own views, hold on to them tenaciously, and relinquish them with difficulty; we shall not adhere to our own views or hold on to them tenaciously, but shall relinquish them easily’: effacement should be practised thus. …
English translation by Suddhāso Bhikkhu
Thus have I heard. On one occasion the Blessed One was living at Sāvatthi, in Jeta‘s Grove, in Anāthapiṇḍika‘s Park. Then in the evening Venerable Mahā-Cunda emerged from seclusion, approached the Blessed One, paid respects to him, and sat to one side. When he was seated to one side, Venerable Mahā-Cunda said to the Blessed One, “Bhante, there are many kinds of perspectives that arise in the world, connected with beliefs about self or beliefs about the world. Bhante, when he is just beginning, what should a monk pay attention to so that these perspectives are abandoned and relinquished?”
“Cunda, there are many kinds of perspectives that arise in the world, connected with beliefs about self or beliefs about the world. Where these perspectives arise, where they lay dormant, and where they occur, one sees them as they are with correct discernment in this way: ‘This is not mine, this is not me, this is not my self.’ In this way these perspectives are abandoned and relinquished.
“Cunda, it is possible that, secluded from sensuality and from unwholesome phenomena, a monk might attain and remain in the first Jhāna, which has thought, examination, and the rapture and happiness born from seclusion. He might think ‘I am living with humility.’ Cunda, this is not what is called ‘humility’ in the discipline of the noble ones. This is called ‘living happily here and now’ in the discipline of the noble ones.
“Cunda, it is possible that, with the abatement of thought and evaluation, a monk might attain and remain in the second Jhāna, which has internal serenity, mental focus, no thought, no evaluation, and has the rapture and happiness produced by concentration. He might think ‘I am living with humility.’ Cunda, this is not what is called ‘humility’ in the discipline of the noble ones. This is called ‘living happily here and now’ in the discipline of the noble ones.
“Cunda, it is possible that, with the fading of rapture, a monk might attain and remain in the third Jhāna, and is equanimous, mindful, and completely aware, experiencing happiness through the body – what the noble ones call ‘one who is equanimous, mindful, and happy.’ He might think ‘I am living with humility.’ Cunda, this is not what is called ‘humility’ in the discipline of the noble ones. This is called ‘living happily here and now’ in the discipline of the noble ones.
“Cunda, it is possible that, with the abandoning of pleasure and pain, and with the prior disappearance of elation and depression, a monk might attain and remain in the fourth Jhāna, which is neither painful nor pleasant and has purity of mindfulness and equanimity. He might think ‘I am living with humility.’ Cunda, this is not what is called ‘humility’ in the discipline of the noble ones. This is called ‘living happily here and now’ in the discipline of the noble ones.
“Cunda, it is possible that, by completely transcending all perceptions of form, with the disappearance of perceptions of resistance, and by not paying attention to perceptions of diversity, perceiving infinite space, a monk might attain and remain in the dimension of infinite space. He might think ‘I am living with humility.’ Cunda, this is not what is called ‘humility’ in the discipline of the noble ones. This is called ‘living peacefully’ in the discipline of the noble ones.
“Cunda, it is possible that, by completely transcending the dimension of infinite space, perceiving infinite consciousness, a monk might attain and remain in the dimension of infinite consciousness. He might think ‘I am living with humility.’ Cunda, this is not what is called ‘humility’ in the discipline of the noble ones. This is called ‘living peacefully’ in the discipline of the noble ones.
“Cunda, it is possible that, by completely transcending the dimension of infinite consciousness, perceiving nothing existing, a monk might attain and remain in the dimension of nothingness. He might think ‘I am living with humility.’ Cunda, this is not what is called ‘humility’ in the discipline of the noble ones. This is called ‘living peacefully’ in the discipline of the noble ones.
“Cunda, it is possible that, by completely transcending the dimension of nothingness, a monk might attain and remain in the dimension of neither perception nor non-perception. He might think ‘I am living with humility.’ Cunda, this is not what is called ‘humility’ in the discipline of the noble ones. This is called ‘living peacefully’ in the discipline of the noble ones.
“Cunda, this is how you are to practice humility:
“‘Others will be cruel; we will not be cruel.’ This is how to practice humility.
“‘Others will kill; we will not kill.’ This is how to practice humility.
“‘Others will steal; we will not steal.’ This is how to practice humility.
“‘Others will live a non-spiritual life1; we will live a spiritual life.’ This is how to practice humility.
“‘Others will lie; we will not lie.’ This is how to practice humility.
“‘Others will speak divisively; we will not speak divisively.’ This is how to practice humility.
“‘Others will speak harshly; we will not speak harshly.’ This is how to practice humility.
“‘Others will speak frivolously; we will not speak frivolously.’ This is how to practice humility.
“‘Others will covet; we will not covet.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be aversive; we will not be aversive.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have wrong view; we will have right view.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have wrong attitude; we will have right attitude.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have wrong speech; we will have right speech.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have wrong action; we will have right action.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have wrong livelihood; we will have right livelihood.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have wrong effort; we will have right effort.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have wrong mindfulness; we will have right mindfulness.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have wrong concentration; we will have right concentration.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have wrong knowledge; we will have right knowledge.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have wrong liberation; we will have right liberation.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be overcome by torpidity and dullness; we will be free of torpidity and dullness.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be agitated; we will not be agitated.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be skeptical; we will be beyond skepticism.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be angry; we will be not be angry.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be resentful; we will not be resentful.’ This is how to practice humility.
“‘Others will denigrate; we will not denigrate.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be malicious; we will not be malicious.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be envious; we will not be envious.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be stingy; we will not be stingy.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be fraudulent; we will not be fraudulent.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be deceitful; we will not be deceitful.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be stubborn; we will not be stubborn.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be conceited; we will not be conceited.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be hard to speak to; we will be easy to speak to.’ This is how to practice humility.
“‘Others will have evil friends; we will have good friends2.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be negligent; we will not be negligent.’ This is how to practice humility.
“‘Others will lack faith; we will have faith.’ This is how to practice humility.
“‘Others will lack conscience; we will have conscience.’ This is how to practice humility.
“‘Others will lack consideration; we will have consideration.’ This is how to practice humility.
“‘Others will know little; we will know much.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be lazy; we will be energetic.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be absent-minded; we will have firmly established mindfulness.’ This is how to practice humility.
“‘Others will be unwise; we will be consummate in wisdom.’ This is how to practice humility.
“‘Others will hold tightly to their opinions and relinquish them with difficulty; we will not hold tightly to our opinions and we will relinquish them easily.’ This is how to practice humility. …
1 มนสิการ = การทำไว้ในใจ, การใคร่ครวญ, การไตร่ตรอง