การละอกุศลวิตก
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ฝึกฝนในอธิจิต ควรกระทำไว้ในใจถึงนิมิต ๕ ประการ ตามเวลาอันสมควร นิมิต ๕ ประการอะไรบ้าง คือ
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุในกรณีนี้ อาศัยนิมิตใดแล้ว หรือทำในใจซึ่งนิมิตใดอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้าง ย่อมเกิดขึ้น ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นควรทำในใจซึ่งนิมิตอื่นนอกจากนิมิตนั้น อันประกอบด้วยกุศล เมื่อเธอทำในใจซึ่งนิมิตอื่นนอกจากนิมิตนั้น อันประกอบด้วยกุศลอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนช่างไม้หรือลูกมือของช่างไม้ผู้ฉลาด ใช้ลิ่มอันเล็ก ตอก โยก ถอน ลิ่มอันใหญ่ออก ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น ภิกษุเมื่ออาศัยนิมิตใดแล้ว หรือทำในใจซึ่งนิมิตใดอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้าง ย่อมเกิดขึ้น ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นควรทำในใจซึ่งนิมิตอื่นนอกจากนิมิตนั้น อันประกอบด้วยกุศล เมื่อเธอทำในใจซึ่งนิมิตอื่นนอกจากนิมิตนั้น อันประกอบด้วยกุศลอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้าง เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น.
ภิกษุทั้งหลาย หากเมื่อภิกษุนั้นทำในใจซึ่งนิมิตอื่นนอกจากนิมิตนั้น อันประกอบด้วยกุศลอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้าง ก็ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นควรพิจารณาโทษของวิตกเหล่านั้นว่า วิตกเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอกุศลแม้อย่างนี้ วิตกเหล่านี้ล้วนแต่มีโทษแม้อย่างนี้ วิตกเหล่านี้ล้วนแต่มีทุกข์เป็นผลแม้อย่างนี้ ดังนี้ เมื่อเธอพิจารณาโทษของวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนหญิงสาวหรือชายหนุ่มที่ชอบแต่งตัว ย่อมรู้สึกอึดอัด ระอา เกลียดชังต่อซากงู ซากสุนัข หรือซากมนุษย์ ซึ่งผูกติดอยู่ที่คอ (ของตน) ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น ภิกษุเมื่อทำในใจซึ่งนิมิตอื่นนอกจากนิมิตนั้น อันประกอบด้วยกุศลอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นควรพิจารณาโทษของวิตกเหล่านั้นว่า วิตกเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอกุศลแม้อย่างนี้ วิตกเหล่านี้ล้วนแต่มีโทษแม้อย่างนี้ วิตกเหล่านี้ล้วนแต่มีทุกข์เป็นผลแม้อย่างนี้ ดังนี้ เมื่อเธอพิจารณาโทษของวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น.
ภิกษุทั้งหลาย หากเมื่อภิกษุนั้นพิจารณาโทษของวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นพึงไม่นึกถึง ไม่ใส่ใจถึงวิตกเหล่านั้น เมื่อเธอไม่นึกถึง ไม่ใส่ใจถึงวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีตาดี เมื่อไม่ต้องการจะเห็นรูปที่ผ่านมา เขาก็พึงหลับตา หรือหันไปทางอื่นเสีย ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น ภิกษุเมื่อพิจารณาโทษของวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นพึงไม่นึกถึง ไม่ใส่ใจถึงวิตกเหล่านั้น เมื่อเธอไม่นึกถึง ไม่ใส่ใจถึงวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น.
ภิกษุทั้งหลาย หากเมื่อภิกษุนั้นไม่นึกถึง ไม่ใส่ใจถึงวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นควรทำในใจซึ่งสัณฐานแห่งวิตกสังขาร1ของวิตกเหล่านั้น เมื่อเธอทำในใจซึ่งสัณฐานแห่งวิตกสังขารของวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมื่อบุรุษเดินเร็ว เขามีความคิดอย่างนี้ว่า เราจะเดินเร็วทำไมหนอ ถ้ากระไร เราควรค่อยๆ เดิน เขาจึงค่อยๆ เดิน เขามีความคิดอย่างนี้ว่า เราจะค่อยๆ เดินไปทำไมหนอ ถ้ากระไร เราควรยืน เขาจึงยืน เขามีความคิดอย่างนี้ว่า เราจะยืนทำไมหนอ ถ้ากระไร เราควรนั่ง เขาจึงนั่ง เขามีความคิดอย่างนี้ว่า เราจะนั่งทำไมหนอ ถ้ากระไร เราควรนอน เขาจึงลงนอน ภิกษุทั้งหลาย ก็บุรุษคนนั้น เปลี่ยนจากอิริยาบถหยาบๆ เสีย แล้วสำเร็จอยู่ด้วยอิริยาบถละเอียดๆ ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น ภิกษุเมื่อไม่นึกถึง ไม่ใส่ใจถึงวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นควรทำในใจซึ่งสัณฐานแห่งวิตกสังขารของวิตกเหล่านั้น เมื่อเธอทำในใจซึ่งสัณฐานแห่งวิตกสังขารของวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น.
ภิกษุทั้งหลาย หากเมื่อภิกษุนั้นทำในใจซึ่งสัณฐานแห่งวิตกสังขารของวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ภิกษุนั้นพึงกัดฟันด้วยฟัน จรดเพดานด้วยลิ้น ข่มจิตด้วยจิต บีบคั้นจิตด้วยจิต เผาจิตด้วยจิต เมื่อเธอกัดฟันด้วยฟัน จรดเพดานด้วยลิ้น ข่มจิตด้วยจิต บีบคั้นจิตด้วยจิต เผาจิตด้วยจิตอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเหมือนบุรุษผู้มีกำลังมาก จับบุรุษผู้มีกำลังน้อยกว่าที่ศีรษะ หรือที่ลำคอ หรือที่ลำตัว แล้วข่มขี่ บีบคั้น ทำให้เร่าร้อนเป็นอย่างยิ่ง ภิกษุทั้งหลาย ฺฉันใดก็ฉันนั้น ภิกษุเมื่อทำในใจซึ่งสัณฐานแห่งวิตกสังขาร ของวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นพึงกัดฟันด้วยฟัน จรดเพดานด้วยลิ้น ข่มจิตด้วยจิต บีบคั้นจิตด้วยจิต เผาจิตด้วยจิต เมื่อเธอกัดฟันด้วยฟัน จรดเพดานด้วยลิ้น ข่มจิตด้วยจิต บีบคั้นจิตด้วยจิต เผาจิตด้วยจิตอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น.
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุอาศัยนิมิตใดแล้ว หรือทำในใจซึ่งนิมิตใดอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้าง ย่อมเกิดขึ้น เมื่อเธอทำในใจซึ่งนิมิตอื่นนอกจากนิมิตนั้น อันประกอบด้วยกุศลอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น.
เมื่อภิกษุพิจารณาโทษของวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น.
เมื่อภิกษุไม่นึกถึง ไม่ใส่ใจถึงวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น.
เมื่อภิกษุทำในใจซึ่งสัณฐานแห่งวิตกสังขารของวิตกเหล่านั้นอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น.
เมื่อภิกษุกัดฟันด้วยฟัน จรดเพดานด้วยลิ้น ข่มจิตด้วยจิต บีบคั้นจิตด้วยจิต เผาจิตด้วยจิตอยู่ วิตกอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยฉันทะบ้าง ประกอบด้วยโทสะบ้าง ประกอบด้วยโมหะบ้างเหล่านั้น เธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้ จิตของเธอย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบระงับอยู่ด้วยดี เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่ในภายในนั้น.
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรากล่าวว่า เป็นผู้ชำนาญในทางเดินของวิตก เธอหวังจะวิตกถึงวิตกใด ก็ตรึกถึงวิตกนั้นได้ ไม่หวังจะวิตกถึงวิตกใด ก็ไม่ตรึกถึงวิตกนั้นได้ เธอนั้นตัดตัณหาได้แล้ว คลี่คลายสังโยชน์ได้แล้ว ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้แล้ว เพราะละมานะได้โดยชอบ.
-บาลี มู. ม. 12/241/257.
https://84000.org/tipitaka/pali/?12//241
https://etipitaka.com/read/pali/12/241/
English translation by Bhikkhu Sujato
So I have heard. At one time the Buddha was staying near Sāvatthī in Jeta’s Grove, Anāthapiṇḍika’s monastery. There the Buddha addressed the mendicants, “Mendicants!”
“Venerable sir,” they replied. The Buddha said this:
“Mendicants, a mendicant committed to the higher mind should focus on five foundations of meditation from time to time. What five?
Take a mendicant who is focusing on some foundation of meditation that gives rise to bad, unskillful thoughts connected with desire, hate, and delusion. That mendicant should focus on some other foundation of meditation connected with the skillful. As they do so, those bad thoughts are given up and come to an end. Their mind becomes stilled internally; it settles, unifies, and becomes immersed in samādhi. It’s like a deft carpenter or their apprentice who’d knock out or extract a large peg with a finer peg. In the same way, a mendicant … should focus on some other foundation of meditation connected with the skillful …
Now, suppose that mendicant is focusing on some other foundation of meditation connected with the skillful, but bad, unskillful thoughts connected with desire, hate, and delusion keep coming up. They should examine the drawbacks of those thoughts: ‘So these thoughts are unskillful, they’re blameworthy, and they result in suffering.’ As they do so, those bad thoughts are given up and come to an end. Their mind becomes stilled internally; it settles, unifies, and becomes immersed in samādhi. Suppose there was a woman or man who was young, youthful, and fond of adornments. If the corpse of a snake or a dog or a human were hung around their neck, they’d be horrified, repelled, and disgusted. In the same way, a mendicant … should examine the drawbacks of those thoughts …
Now, suppose that mendicant is examining the drawbacks of those thoughts, but bad, unskillful thoughts connected with desire, hate, and delusion keep coming up. They should try to ignore and forget about them. As they do so, those bad thoughts are given up and come to an end. Their mind becomes stilled internally; it settles, unifies, and becomes immersed in samādhi. Suppose there was a person with good eyesight, and some undesirable sights came into their range of vision. They’d just close their eyes or look away. In the same way, a mendicant … those bad thoughts are given up and come to an end …
Now, suppose that mendicant is ignoring and forgetting about those thoughts, but bad, unskillful thoughts connected with desire, hate, and delusion keep coming up. They should focus on stopping the formation of thoughts. As they do so, those bad thoughts are given up and come to an end. Their mind becomes stilled internally; it settles, unifies, and becomes immersed in samādhi. Suppose there was a person walking quickly. They’d think: ‘Why am I walking so quickly? Why don’t I slow down?’ So they’d slow down. They’d think: ‘Why am I walking slowly? Why don’t I stand still?’ So they’d stand still. They’d think: ‘Why am I standing still? Why don’t I sit down?’ So they’d sit down. They’d think: ‘Why am I sitting? Why don’t I lie down?’ So they’d lie down. And so that person would reject successively coarser postures and adopt more subtle ones.
In the same way, a mendicant … those thoughts are given up and come to an end …
Now, suppose that mendicant is focusing on stopping the formation of thoughts, but bad, unskillful thoughts connected with desire, hate, and delusion keep coming up. With teeth clenched and tongue pressed against the roof of the mouth, they should squeeze, squash, and torture mind with mind. As they do so, those bad thoughts are given up and come to an end. Their mind becomes stilled internally; it settles, unifies, and becomes immersed in samādhi. It’s like a strong man who grabs a weaker man by the head or throat or shoulder and squeezes, squashes, and tortures them. In the same way, a mendicant … with teeth clenched and tongue pressed against the roof of the mouth, should squeeze, squash, and torture mind with mind. As they do so, those bad thoughts are given up and come to an end. Their mind becomes stilled internally; it settles, unifies, and becomes immersed in samādhi.
Now, take the mendicant who is focusing on some foundation of meditation that gives rise to bad, unskillful thoughts connected with desire, hate, and delusion. They focus on some other foundation of meditation connected with the skillful … They examine the drawbacks of those thoughts … They try to ignore and forget about those thoughts … They focus on stopping the formation of thoughts … With teeth clenched and tongue pressed against the roof of the mouth, they squeeze, squash, and torture mind with mind. When they succeed in each of these things, those bad thoughts are given up and come to an end. Their mind becomes stilled internally; it settles, unifies, and becomes immersed in samādhi. This is called a mendicant who is a master of the ways of thought. They’ll think what they want to think, and they won’t think what they don’t want to think. They’ve cut off craving, untied the fetters, and by rightly comprehending conceit have made an end of suffering.”
That is what the Buddha said. Satisfied, the mendicants were happy with what the Buddha said.
English translation by Bhikkhu Bodhi
Thus have I heard. On one occasion the Blessed One was living at Sāvatthī in Jeta’s Grove, Anāthapiṇḍika’s Park. There he addressed the bhikkhus thus: “Bhikkhus.”—“Venerable sir,” they replied. The Blessed One said this:
“Bhikkhus, when a bhikkhu is pursuing the higher mind, from time to time he should give attention to five signs. What are the five?
I “Here, bhikkhus, when a bhikkhu is giving attention to some sign, and owing to that sign there arise in him evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion, then he should give attention to some other sign connected with what is wholesome. When he gives attention to some other sign connected with what is wholesome, then any evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion are abandoned in him and subside. With the abandoning of them his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated. Just as a skilled carpenter or his apprentice might knock out, remove, and extract a coarse peg by means of a fine one, so too…when a bhikkhu gives attention to some other sign connected with what is wholesome…his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated.
II “If, while he is giving attention to some other sign connected with what is wholesome, there still arise in him evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion, then he should examine the danger in those thoughts thus: ‘These thoughts are unwholesome, they are reprehensible, they result in suffering.’ When he examines the danger in those thoughts, then any evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion are abandoned in him and subside. With the abandoning of them his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated. Just as a man or a woman, young, youthful, and fond of ornaments, would be horrified, humiliated, and disgusted if the carcass of a snake or a dog or a human being were hung around his or her neck, so too…when a bhikkhu examines the danger in those thoughts…his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated.
III “If, while he is examining the danger in those thoughts, there still arise in him evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion, then he should try to forget those thoughts and should not give attention to them. When he tries to forget those thoughts and does not give attention to them, then any evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion are abandoned in him and subside. With the abandoning of them his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated. Just as a man with good eyes who did not want to see forms that had come within range of sight would either shut his eyes or look away, so too…when a bhikkhu tries to forget those thoughts and does not give attention to them … his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated.
IV “If, while he is trying to forget those thoughts and is not giving attention to them, there still arise in him evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion, then he should give attention to stilling the thought-formation of those thoughts. When he gives attention to stilling the thought-formation of those thoughts, then any evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion are abandoned in him and subside. With the abandoning of them his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated. Just as a man walking fast might consider: ‘Why am I walking fast? What if I walk slowly?’ and he would walk slowly; then he might consider: ‘Why am I walking slowly? What if I stand?’ and he would stand; then he might consider: ‘Why am I standing? What if I sit?’ and he would sit; then he might consider: ‘Why am I sitting? What if I lie down?’ and he would lie down. By doing so he would substitute for each grosser posture one that was subtler. So too…when a bhikkhu gives attention to stilling the thought-formation of those thoughts…his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated.
V “If, while he is giving attention to stilling the thought-formation of those thoughts, there still arise in him evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion, then, with his teeth clenched and his tongue pressed against the roof of his mouth, he should beat down, constrain, and crush mind with mind. When, with his teeth clenched and his tongue pressed against the roof of his mouth, he beats down, constrains, and crushes mind with mind, then any evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion are abandoned in him and subside. With the abandoning of them his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated. Just as a strong man might seize a weaker man by the head or shoulders and beat him down, constrain him, and crush him, so too…when, with his teeth clenched and his tongue pressed against the roof of his mouth, a bhikkhu beats down, constrains, and crushes mind with mind…his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated.
“Bhikkhus, when a bhikkhu is giving attention to some sign, and owing to that sign there arise in him evil unwholesome thoughts connected with desire, with hate, and with delusion, then when he gives attention to some other sign connected with what is wholesome, any such evil unwholesome thoughts are abandoned in him and subside, and with the abandoning of them his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated. When he examines the danger in those thoughts…When he tries to forget those thoughts and does not give attention to them…When he gives attention to stilling the thought-formation of those thoughts…When, with his teeth clenched and his tongue pressed against the roof of his mouth, he beats down, constrains, and crushes mind with mind, any such evil unwholesome thoughts are abandoned in him…and his mind becomes steadied internally, quieted, brought to singleness, and concentrated. This bhikkhu is then called a master of the courses of thought. He will think whatever thought he wishes to think and he will not think any thought that he does not wish to think. He has severed craving, flung off the fetters, and with the complete penetration of conceit he has made an end of suffering.”
That is what the Blessed One said. The bhikkhus were satisfied and delighted in the Blessed One’s words.
English translation by Bhikkhu Suddhāso
Thus have I heard. On one occasion the Blessed One was dwelling at Sāvatthi, at Jeta‘s Grove, in Anāthapiṇḍika‘s Park. There the Blessed One addressed the monks: “Monks!” “Auspicious sir,” those monks replied to the Blessed One. The Blessed One said this:
“Monks, there are five objects of awareness1 to be given attention to from time to time by a monk who is committed to developing a heightened mind. What five? Here, monks, when harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion arise in a monk due to a particular object of awareness, from paying attention to a particular object of awareness, then, monks, that monk is to shift his attention from that object of awareness to another object of awareness that is connected with something wholesome. When he shifts his attention from that object of awareness to another object of awareness that is connected with something wholesome, those harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable,2 settled, unified, and concentrated. Monks, just like a skilled carpenter or carpenter‘s apprentice strikes away, knocks out, and does away with a coarse peg using a refined peg, in the same way, monks, when harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion arise in a monk due to a particular object of awareness, from paying attention to a particular object of awareness, then, monks, that monk is to shift his attention from that object of awareness to another object of awareness that is connected with something wholesome. When he shifts his attention from that object of awareness to another object of awareness that is connected with something wholesome, those harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated.
“Monks, when that monk shifts his attention from that object of awareness to another object of awareness that is connected with something wholesome, if harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion still arise, then, monks, that monk is to consider the disadvantages of those thoughts, thinking ‘These thoughts are unwholesome, these thoughts are blameworthy, these thoughts result in dissatisfaction.’3 When he considers the disadvantages of those thoughts, those harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated. Monks, just like a young woman or young man who is naturally fond of adornments would be upset, humiliated, and disgusted if a snake corpse, dog corpse, or human corpse was tied to their neck, in the same way, monks, when that monk shifts his attention from that object of awareness to another object of awareness that is connected with something wholesome, if harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion still arise, then, monks, that monk is to consider the disadvantages of those thoughts, thinking ‘These thoughts are unwholesome, these thoughts are blameworthy, these thoughts result in dissatisfaction.’ When he considers the disadvantages of those thoughts, those harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated.
“Monks, when that monk is considering the disadvantages of those thoughts, if harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion still arise, then, monks, that monk is to ignore those thoughts and pay no attention to them. When he ignores those thoughts and pays no attention to them, those harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated. Monks, just like a person with eyes who wants to stop seeing objects that have come into his field of view might close his eyes or look away, in the same way, monks, when that monk is considering the disadvantages of those thoughts, if harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion still arise, they are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated.
“Monks, when that monk is ignoring those thoughts and paying no attention to them, if harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion still arise, then, monks, that monk is to pay attention to the stabilizing of the thought-producers4 of those thoughts. When he pays attention to the stabilizing of the thought-producers of those thoughts, those harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated. Monks, just like a person who is walking quickly might think, ‘Why do I walk quickly? Perhaps I should walk slowly.’ So he walks slowly. He might think, ‘Why do I walk slowly? Perhaps I should stand still.” So he stands still. He might think, ‘Why am I standing? Perhaps I should sit down.” So he sits down. He might think, ‘Why am I sitting? Perhaps I should lay down.’ So he lays down. In this way, monks, a person replaces coarse postures with refined postures. In the same way, monks, when that monk is ignoring those thoughts and paying no attention to them, if harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion still arise, they are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated.
“Monks, when that monk is paying attention to the stabilizing of the thought-producers of those thoughts, if harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion still arise, then, monks, that monk is to clench his teeth, press his tongue against the roof of his mouth, and mentally restrain, subdue, and overpower the mind. When he clenches his teeth, presses his tongue against the roof of his mouth, and mentally restrains, subdues, and overpowers the mind, those harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated. Monks, just like a strong man might grab a weaker man‘s head, neck, or shoulder and restrain, subdue, and overpower him, in the same way, monks, when that monk is paying attention to the stabilizing of the thought-producers of those thoughts, if harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion still arise, then, monks, that monk is to clench his teeth, press his tongue against the roof of his mouth, and mentally restrain, subdue, and overpower the mind. When he clenches his teeth, presses his tongue against the roof of his mouth, and mentally restrains, subdues, and overpowers the mind, those harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated.
“Monks, when harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion arise in a monk due to a particular object of awareness, from paying attention to a particular object of awareness, then when that monk shifts his attention from that object of awareness to another object of awareness that is connected with something wholesome, those harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated.
“When he considers the disadvantages of those thoughts… When he ignores those thoughts and pays no attention to them… When he pays attention to the stabilizing of the thought-producers of those thoughts… When he clenches his teeth, presses his tongue against the roof of his mouth, and mentally restrains, subdues, and overpowers the mind, those harmful, unwholesome thoughts connected with desire, aversion, and delusion are abandoned, and they disappear. From their abandoning, the mind becomes internally stable, settled, unified, and concentrated.
“Monks, this is called a monk who is in control of all his patterns of thought.5 He will think whatever thought he wishes to think; he will not think whatever thought he does not wish to think. Craving has been severed, the fetters have been removed, and through the appropriate understanding of conceit,6 dissatisfaction7 has been terminated.”
This is what the Blessed One said. Satisfied, those monks delighted in the Blessed One‘s speech.