วันพระ (20/11/2023)

Back to บ้านสวนธัมมะ

วันพระ (20/11/2023)

เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งตาโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งรูปทั้งหลายโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งจักษุวิญญาณโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งจักษุสัมผัสโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น.

 

เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งหูโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งเสียงทั้งหลายโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งโสตวิญญาณโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งโสตสัมผัสโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น.

 

เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งจมูกโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งกลิ่นทั้งหลายโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งฆานวิญญาณโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งฆานสัมผัสโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น.

 

เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งลิ้นโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งรสทั้งหลายโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งชิวหาวิญญาณโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งชิวหาสัมผัสโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น.

 

เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งกายโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งโผฏฐัพพะทั้งหลายโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งกายวิญญาณโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งกายสัมผัสโดยความเป็นของ
ไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น.

 

เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งใจโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งธรรมทั้งหลายโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งมโนวิญญาณโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งมโนสัมผัสโดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมละอวิชชาได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น.

 

เมื่อภิกษุรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงจะละอวิชชาได้ วิชชาจึงจะเกิดขึ้น.”

 

-บาลี สฬา. สํ. 18/61/95.

Share this post

Back to บ้านสวนธัมมะ