เหตุที่ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของบุคคลอื่น และทำให้บุคคลอื่นเคารพเชื่อฟัง
… ภิกษุทั้งหลาย เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ในภพที่อยู่อาศัยก่อน ได้เป็นผู้ไม่ถลึงตา ไม่ค้อนควัก ไม่จ้องลับหลัง เป็นผู้แช่มชื่นมองดูตรงๆ มองดูผู้อื่นด้วยสายตาอันแสดงความรัก เพราะได้กระทำ ได้สร้างสม ได้พอกพูน ได้ทำให้ไพบูลย์ซึ่งกรรมนั้นๆ ไว้ ภายหลังจากการตาย เพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ตถาคตนั้นถือเอายิ่งกว่าในเทวดาเหล่าอื่นโดย ฐานะ ๑๐ คือ อายุทิพย์ วรรณะทิพย์ สุขทิพย์ ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์ โผฏฐัพพะทิพย์ ครั้นจุติจากภพนั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้ลักษณะของมหาบุรุษ ๒ ข้อนี้คือ มีตาสีดำสนิท1 มีตาดุจตาโค มหาบุรุษผู้ถึงพร้อมด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือน ย่อมเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้ประกอบด้วยธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม มีทิศทั้ง ๔ เป็นที่สุด มีชนบทถึงความมั่นคงถาวร ประกอบด้วยรัตนะ ๗ ประการ รัตนะ ๗ ประการ ย่อมเกิดแก่มหาบุรุษนั้นคือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว มณีแก้ว นางแก้ว คหบดีแก้ว และปริณายกแก้วเป็นที่ ๗ มีบุตรมากกว่าพันคน ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้กล้าหาญ รูปทรงองอาจ สามารถย่ำยีข้าศึกได้ มหาบุรุษนั้น ครอบครองแผ่นดิน อันมีมหาสมุทรเป็นขอบเขตโดยธรรม ไม่ต้องใช้อาชญา ไม่ต้องใช้ศาสตรา ไม่มีหลักตอ ไม่มีเสี้ยนหนาม รุ่งเรือง มั่งคั่ง เกษมสำราญ ร่มเย็น ปราศจากเสนียด (คือโจร)2 เมื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จะได้รับผลอะไร เมื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จะได้รับผลข้อนี้คือ ย่อมเป็นผู้ที่มหาชนเห็นแล้วรักใคร่ เป็นที่รักใคร่พอใจของพราหมณ์ คหบดี ชาวนิคม ชาวชนบท โหราจารย์ มหาอำมาตย์ กองทหาร3 ผู้เฝ้าประตู อำมาตย์ พระราชา (ที่เป็นบริวาร) เศรษฐี และราชกุมาร ถ้าออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ย่อมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธะ มีกิเลสเครื่องปกปิดอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลอะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้คือ ย่อมเป็นที่มหาชนเห็นแล้วรักใคร่ เป็นที่รักใคร่พอใจของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์.
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ในภพที่อยู่อาศัยก่อน ได้เป็นหัวหน้าของชนเป็นอันมาก ในกุศลธรรมทั้งหลาย ได้เป็นประธานของชนเป็นอันมาก ในกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ในการจำแนกทาน การสมาทานศีล การรักษาอุโบสถ การประพฤติเกื้อกูลในมารดาบิดา ในสมณพราหมณ์ การนอบน้อมต่อผู้เจริญในตระกูล ในอธิกุศลธรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะได้กระทำ ได้สร้างสม ได้พอกพูน ได้ทำให้ไพบูลย์ซึ่งกรรมนั้นๆ ไว้ ภายหลังจากการตาย เพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ … ครั้นจุติจากภพนั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้ลักษณะของมหาบุรุษข้อนี้คือ มีศีรษะรับกับกรอบหน้า มหาบุรุษผู้ถึงพร้อมด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือน ย่อมเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ … เมื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จะได้รับผลข้อนี้คือ ย่อมเป็นผู้ที่มหาชนติดตาม คือ พราหมณ์ คหบดี ชาวนิคม ชาวชนบท โหราจารย์ มหาอำมาตย์ กองทหาร ผู้เฝ้าประตู อำมาตย์ พระราชา (ที่เป็นบริวาร) เศรษฐี และราชกุมาร ติดตาม ถ้าออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ย่อมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธะ … เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้คือ ย่อมเป็นผู้ที่มหาชนติดตาม คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ ติดตาม.
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ในภพที่อยู่อาศัยก่อน ได้เป็นผู้ละเว้นจากมุสาวาท พูดคำจริง ดำรงคำสัตย์ มีถ้อยคำเป็นหลักฐาน เชื่อถือได้ ไม่หลอกลวงชาวโลก เพราะได้กระทำ ได้สร้างสม ได้พอกพูน ได้ทำให้ไพบูลย์ซึ่งกรรมนั้นๆ ไว้ ภายหลังจากการตาย เพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ … ครั้นจุติจากภพนั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้แล้ว จึงได้ลักษณะของมหาบุรุษ ๒ ข้อนี้คือ มีขนขุมละเส้น มีอุณาโลมหว่างคิ้ว สีขาวอ่อนดุจสำลี มหาบุรุษผู้ถึงพร้อมด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือน ย่อมเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ … เมื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จะได้รับผลข้อนี้คือ ย่อมเป็นผู้ที่มหาชนประพฤติตาม คือ พราหมณ์ คหบดี ชาวนิคม ชาวชนบท โหราจารย์ มหาอำมาตย์ กองทหาร ผู้เฝ้าประตู อำมาตย์ พระราชา (ที่เป็นบริวาร) เศรษฐี และราชกุมาร ประพฤติตาม ถ้าออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ย่อมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธะ … เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้คือ ย่อมเป็นผู้ที่มหาชนประพฤติตาม คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ ประพฤติตาม.
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ในภพที่อยู่อาศัยก่อน ได้เป็นผู้ละเว้นจากการพูดส่อเสียด (คือคำยุยงให้แตกกัน) คือไม่ฟังจากฝ่ายนี้แล้วไปบอกฝ่ายโน้นเพื่อทำลายฝ่ายนี้ ไม่ฟังจากฝ่ายโน้นแล้วมาบอกฝ่ายนี้เพื่อทำลายฝ่ายโน้น เป็นผู้สมานคนที่แตกกันแล้วให้กลัับสามัคคีกัน และส่งเสริมคนที่สามัคคีกันอยู่ในสามัคคีกันยิ่งขึ้น เป็นผู้พอใจ ยินดีในความสามัคคีกัน เพลิดเพลินในความสามัคคีกัน กล่าวแต่วาจาที่ทำให้เกิดความสามัคคีกัน เพราะได้กระทำ ได้สร้างสม ได้พอกพูน ได้ทำให้ไพบูลย์ซึ่งกรรมนั้นๆ ไว้ ภายหลังจากการตาย เพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ … ครั้นจุติจากภพนั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้แล้ว จึงได้ลักษณะของมหาบุรุษ ๒ อย่างนี้คือ มีฟันครบ ๔๐ ซี่ มีฟันสนิท ไม่ห่างกัน มหาบุรุษผู้ถึงพร้อมด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือน ย่อมเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ … เมื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จะได้รับผลข้อนี้คือ ย่อมเป็นผู้มีบริษัทไม่แตกแยกกัน คือ พราหมณ์ คหบดี ชาวนิคม ชาวชนบท โหราจารย์ มหาอำมาตย์ กองทหาร ผู้เฝ้าประตู อำมาตย์ พระราชา (ที่เป็นบริวาร) เศรษฐี และราชกุมาร เป็นบริษัทที่ไม่แตกแยกกัน ถ้าออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ย่อมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธะ … เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้คือ ย่อมเป็นผู้มีบริษัทไม่แตกแยกกัน คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ เป็นบริษัทที่ไม่แตกแยกกัน.
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ในภพที่อยู่อาศัยก่อน ได้เป็นผู้ละเว้นการกล่าวคำหยาบ กล่าวแต่วาจาที่ไม่มีโทษ เสนาะโสต ให้เกิดความรัก เป็นคำฟูใจ เป็นคำสุภาพที่ชาวเมืองเขาพูดกัน เป็นที่รักใคร่ที่พอใจของชนเป็นอันมาก เพราะได้กระทำ ได้สร้างสม ได้พอกพูน ได้ทำให้ไพบูลย์ซึ่งกรรมนั้นๆ ไว้ ภายหลังจากการตาย เพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ … ครั้นจุติจากภพนั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ ย่อมได้ลักษณะของมหาบุรุษ ๒ ข้อนี้คือ มีลิ้นอันเพียงพอ มีเสียงเหมือนพรหม พูดเหมือนนกการวิก มหาบุรุษผู้ถึงพร้อมด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือน ย่อมเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ … เมื่อเป็นพระจักรพรรดิ จะได้รับผลข้อนี้คือ ย่อมเป็นผู้มีวาจาที่ผู้อื่นเคารพเชื่อฟัง คือ พราหมณ์ คหบดี ชาวนิคม ชาวชนบท โหราจารย์ มหาอำมาตย์ กองทหาร ผู้เฝ้าประตู อำมาตย์ พระราชา (ที่เป็นบริวาร) เศรษฐี และราชกุมาร เคารพเชื่อฟัง ถ้าออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ย่อมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธะ … เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้คือ ย่อมเป็นผู้มีวาจาที่ผู้อื่นเคารพเชื่อฟัง คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ เคารพเชื่อฟัง. …
-บาลี ปา. ที. 11/181/158.
https://84000.org/tipitaka/pali/?11//181,
https://etipitaka.com/read/pali/11/181
1 ตาสีดำสนิท มาจากศัพท์บาลีคำว่า อภินีล ซึ่งคำว่า นีล ยังมีความอื่นอีก เช่น สีเขียวแก่ หรือสีน้ำเงินก็ได้ ในสำนวนแปลภาษาอังกฤษบางสำนวน แปลว่า Deep blue eyes
2 ตั้งแต่คำว่า ไม่มีหลักตอ ไม่มีเสี้ยนหนาม … ปราศจากเสนียด ไม่มีในพระไตรปิฎกฉบับมอญ และฉนับภาษาอังกฤษ
3 คำว่า กองทหาร บางสำนวนแปลใช้ว่า แม่ทัพนายกอง”
English translation by Bhikkhu Sujato
21–22. Deep Blue Eyes
“Mendicants, in some past lives the Realized One was reborn as a human being. When looking at others he didn’t glare, look askance, or avert his eyes. Being straightforward, he reached out to others with straightforward intentions, looking at people with kindly eyes. Due to performing those deeds he was reborn in a heavenly realm. When he came back to this state of existence he obtained these two marks: his eyes are deep blue, and he has eyelashes like a cow’s.
Possessing these marks, if he stays at home he becomes a wheel-turning monarch. And what does he obtain as king? The people look on him with kindly eyes. He is dear and beloved to the brahmins and householders, people of town and country, treasury officials, military officers, guardsmen, ministers, counselors, rulers, tax beneficiaries, and princes. That’s what he obtains as king. And what does he obtain as Buddha? The people look on him with kindly eyes. He is dear and beloved to the monks, nuns, laymen, laywomen, gods, humans, demons, dragons, and fairies. That’s what he obtains as Buddha.”
23. Head Like a Turban
“Mendicants, in some past lives the Realized One was reborn as a human being. He was the leader and forerunner of people in skillful behaviors such as good conduct by way of body, speech, and mind, giving and sharing, taking precepts, observing the sabbath, paying due respect to mother and father, ascetics and brahmins, honoring the elders in the family, and various other things pertaining to skillful behaviors. Due to performing those deeds he was reborn in a heavenly realm. When he came back to this state of existence he obtained this mark: his head is shaped like a turban.
Possessing this mark, if he stays at home he becomes a wheel-turning monarch. And what does he obtain as king? He has a large following of brahmins and householders, people of town and country, treasury officials, military officers, guardsmen, ministers, counselors, rulers, tax beneficiaries, and princes. That’s what he obtains as king. And what does he obtain as Buddha? He has a large following of monks, nuns, laymen, laywomen, gods, humans, demons, dragons, and fairies. That’s what he obtains as Buddha.”
24–25. One Hair Per Pore, and a Tuft
“Mendicants, in some past lives the Realized One was reborn as a human being. He refrained from lying. He spoke the truth and stuck to the truth. He was honest and trustworthy, and didn’t trick the world with his words. Due to performing those deeds he was reborn in a heavenly realm. When he came back to this state of existence he obtained these two marks: his hairs grow one per pore, and between his eyebrows there grows a tuft, soft and white like cotton-wool.
Possessing these marks, if he stays at home he becomes a wheel-turning monarch. And what does he obtain as king? He has many close adherents among the brahmins and householders, people of town and country, treasury officials, military officers, guardsmen, ministers, counselors, rulers, tax beneficiaries, and princes. That’s what he obtains as king. And what does he obtain as Buddha? He has many close adherents among the monks, nuns, laymen, laywomen, gods, humans, demons, dragons, and fairies. That’s what he obtains as Buddha.”
26–27. Forty Gapless Teeth
“Mendicants, in some past lives the Realized One was reborn as a human being. He refrained from divisive speech. He didn’t repeat in one place what he heard in another so as to divide people against each other. Instead, he reconciled those who were divided, supporting unity, delighting in harmony, loving harmony, speaking words that promote harmony. Due to performing those deeds he was reborn in a heavenly realm. When he came back to this state of existence he obtained these two marks: he has forty teeth, and his teeth have no gaps.
Possessing these marks, if he stays at home he becomes a wheel-turning monarch. And what does he obtain as king? His retinue cannot be divided. This includes brahmins and householders, people of town and country, treasury officials, military officers, guardsmen, ministers, counselors, rulers, tax beneficiaries, and princes. That’s what he obtains as king. And what does he obtain as Buddha? His retinue cannot be divided. This includes monks, nuns, laymen, laywomen, gods, humans, demons, dragons, and fairies. That’s what he obtains as Buddha.” The Buddha spoke this matter.
28–29. A Large Tongue and the Voice of Brahmā
“Mendicants, in some past lives the Realized One was reborn as a human being. He refrained from harsh speech. He spoke in a way that’s mellow, pleasing to the ear, lovely, going to the heart, polite, likable and agreeable to the people. Due to performing those deeds he was reborn in a heavenly realm. When he came back to this state of existence he obtained these two marks: he has a large tongue, and the voice of Brahmā, like a cuckoo’s call.
Possessing these marks, if he stays at home he becomes a wheel-turning monarch. And what does he obtain as king? He has a persuasive voice. His words are persuasive to brahmins and householders, people of town and country, treasury officials, military officers, guardsmen, ministers, counselors, rulers, tax beneficiaries, and princes. That’s what he obtains as king. And what does he obtain as Buddha? He has a persuasive voice. His words are persuasive to monks, nuns, laymen, laywomen, gods, humans, demons, dragons, and fairies. That’s what he obtains as Buddha.” The Buddha spoke this matter. …