What causes rebirth in the hell called ‘The Fallen’. (1)
English translation by Bhikkhu Sujato
Then Dustin the warrior chief went up to the Buddha, bowed, sat down to one side, and said to him:
“Sir, I have heard that the warriors of the past who were teachers of teachers said: ‘Suppose a warrior, while striving and struggling in battle, is killed and finished off by his foes. When his body breaks up, after death, he’s reborn in the company of the gods of the fallen.’ What does the Buddha say about this?”
“Enough, chief, let it be. Don’t ask me that.”
For a second time …
And for a third time the warrior chief said to the Buddha:
“Sir, I have heard that the warriors of the past who were teachers of teachers said: ‘Suppose a warrior, while striving and struggling in battle, is killed and finished off by his foes. When his body breaks up, after death, he’s reborn in the company of the gods of the fallen.’ What does the Buddha say about this?”
“Clearly, chief, I’m not getting through to you when I say: ‘Enough, chief, let it be. Don’t ask me that.’ Nevertheless, I will answer you.
When a warrior strives and struggles in battle, their mind is already low, degraded, and misdirected as they think: ‘May these sentient beings be killed, slaughtered, slain, destroyed, or annihilated!’ His foes kill him and finish him off, and when his body breaks up, after death, he’s reborn in the hell called ‘The Fallen’.
But if you have such a view: ‘Suppose a warrior, while striving and struggling in battle, is killed and finished off by his foes. When his body breaks up, after death, he’s reborn in the company of the gods of the fallen.’ This is your wrong view. An individual with wrong view is reborn in one of two places, I say: hell or the animal realm.”
When he said this, Dustin the warrior chief cried and burst out in tears.
“This is what I didn’t get through to you when I said: ‘Enough, chief, let it be. Don’t ask me that.’”
“Sir, I’m not crying because of what the Buddha said. But sir, for a long time I’ve been cheated, tricked, and deceived by the warriors of the past who were teachers of teachers, who said: ‘Suppose a warrior, while striving and struggling in battle, is killed and finished off by his foes. When his body breaks up, after death, he’s reborn in the company of the gods of the fallen.’
Excellent, sir! Excellent! … From this day forth, may the Buddha remember me as a lay follower who has gone for refuge for life.”
ครั้งนั้นแล นายบ้านนักรบอาชีพเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ … ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
ภันเต ข้าพระองค์ได้ฟังคำของนักรบอาชีพ ทั้งอาจารย์และปาจารย์ก่อนๆ1 กล่าวกันอย่างนี้ว่า นักรบอาชีพคนใดมีความอุตสาหะ มีความพยายามในการทำสงคราม คนอื่นฆ่าผู้นั้นซึ่งกำลังมีความอุตสาหะ มีความพยายามในการทำสงครามให้ถึงความตาย ผู้นั้นภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับเทวดาเหล่าสรชิต ในข้อนี้พระผู้มีพระภาคตรัสว่าอย่างไร.
อย่าเลยคามณิ ขอพักข้อนี้เสียเถิด ท่านอย่าถามข้อนี้กะเราเลย.
แม้ครั้งที่ ๒ คามณิ ได้ทูลถามอีก พระผู้มีพระภาคตรัสห้าม.
แม้ครั้งที่ ๓ คามณิ ได้ทูลถามอีกว่า ภันเต ข้าพระองค์ได้ฟังคำของนักรบอาชีพ นักรบอาชีพคนใดมีความอุตสาหะ มีความพยายามในการทำสงคราม คนอื่นฆ่าผู้นั้นซึ่งกำลังมีความอุตสาหะ มีความพยายามในการทำสงครามให้ถึงความตาย ผู้นั้นภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับเทวดาเหล่าสรชิต ในข้อนี้พระผู้มีพระภาคตรัสว่าอย่างไร.
พระผู้มีพระภาคจึงตรัสตอบว่า
คามณิ เราห้ามท่านไม่ได้แล้วว่า อย่าเลยคามณิ ขอพักข้อนี้เสียเถิด ท่านอย่าถามข้อนี้กะเราเลย แต่เอาเถิดเราจักพยากรณ์ให้แก่ท่าน คามณิ นักรบอาชีพคนใด มีความอุตสาหะ มีพยายามในการทำสงคราม ผู้นั้นยึดหน่วงจิตกระทำไว้ไม่ดี ตั้งจิตไว้ไม่ดีก่อนว่า สัตว์เหล่านี้จงถูกฆ่า จงถูกแทง จงขาดสูญ จงพินาศ หรือว่าอย่าได้มีชีวิตอยู่เลย คนอื่นฆ่าผู้นั้นซึ่งกำลังอุตสาหะพยายามให้ถึงความตาย ผู้นั้นภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย ย่อมเกิดในนรกชื่อสรชิต.
ก็ถ้าเขามีความเห็นอย่างนี้ว่า นักรบอาชีพคนใดมีความอุตสาหะ มีความพยายามในการทำสงคราม คนอื่นฆ่าผู้นั้นซึ่งกำลังมีควาวมอุตสาหะ มีความพยายามให้ถึงความตาย ผู้นั้นภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับเทวดาเหล่าสรชิต ดังนี้ ความเห็นของผู้นั้นเป็นความเห็นผิด.
คามณิ ก็เราย่อมกล่าวคติ ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง ของบุคคลผู้มีความเห็นผิด คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดรัจฉาน.
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว นายบ้านนักรบอาชีพร้องไห้สะอื้น น้ำตาไหล.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า คามณิ เราได้ห้ามท่านแล้วมิใช่หรือว่า อย่าเลยคามณิ ขอพักข้อนี้เสียเถิด ท่านอย่าถามข้อนี้กะเราเลย.
เขาตอบว่า ภันเต ข้าพระองค์ไม่ได้ร้องไห้ถึงข้อที่พระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้กะข้าพระองค์หรอก แต่ว่าข้าพระองค์ถูกนักรบอาชีพทั้งอาจารย์และปาจารย์ก่อนๆ ล่อลวงให้หลงสิ้นกาลนานว่า นักรบอาชีพคนใดมีความอุตสาหะ มีความพยายามในการทำสงคราม คนอื่นฆ่าผู้นั้นซึ่งกำลังมีความอุตสาหะ มีความพยายามให้ถึงความตาย นักรบอาชีพคนนั้นภายหลังจากการตายเพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับเทวดาเหล่าสรชิต ดังนี้.
ภันเต ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ภันเต ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย ดุจการหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางให้แก่คนหลงทาง หรือส่องไฟในที่มืดด้วยหวังว่า คนมีตาที่ดีจักได้เห็นรูป ดังนี้ ภันเต ข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาค กับทั้งพระธรรม และพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระองค์โปรดทรงจำข้าพเจ้าว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะจนตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.
-บาลี สฬา. สํ. 18/380/593.
https://84000.org/tipitaka/pali/?18//380
https://etipitaka.com/read/pali/18/308
1 ปาจารย์ = อาจารย์ของอาจารย์