Dark deeds vs. Bright deeds.
English translation by Bhikkhu Sujato
“Mendicants, I declare these four kinds of deeds, having realized them with my own insight. What four?
There are dark deeds with dark results;
bright deeds with bright results;
dark and bright deeds with dark and bright results; and
neither dark nor bright deeds with neither dark nor bright results, which lead to the ending of deeds.
And what are the dark deeds with dark results? It’s when someone kills living creatures, steals, commits sexual misconduct, lies, and uses alcoholic drinks that cause negligence. These are called dark deeds with dark results.
And what are bright deeds with bright results? It’s when someone doesn’t kill living creatures, steal, commit sexual misconduct, lie, or use alcoholic drinks that cause negligence. These are called bright deeds with bright results.
And what are dark and bright deeds with dark and bright results? It’s when someone makes both hurtful and pleasing choices by way of body, speech, and mind. These are called dark and bright deeds with dark and bright results.
And what are neither dark nor bright deeds with neither dark nor bright results, which lead to the ending of deeds? It’s the intention to give up dark deeds with dark results, bright deeds with bright results, and both dark and bright deeds with both dark and bright results. These are called neither dark nor bright deeds with neither dark nor bright results, which lead to the ending of deeds.
These are the four kinds of deeds that I declare, having realized them with my own insight.”
ภิกษุทั้งหลาย กรรม ๔ ประการนี้ เรากระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ทราบ ๔ ประการอะไรบ้าง คือ กรรมดำมีวิบากดำก็มี กรรมขาวมีวิบากขาวก็มี กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาวก็มี กรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมก็มี.
ภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมดำมีวิบากดำเป็นอย่างไร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฆ่าสัตว์มีชีวิต เป็นผู้ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ เป็นผู้ประพฤติผิดในกาม เป็นผู้พูดเท็จ เป็นผู้ดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท นี้เราเรียกว่า กรรมดำมีวิบากดำ.
ภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมขาวมีวิบากขาวเป็นอย่างไร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์มีชีวิต เป็นผู้งดเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ เป็นผู้งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม เป็นผู้งดเว้นจากการพูดเท็จ เป็นผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท นี้เราเรียกว่า กรรมขาวมีวิบากขาว.
ภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาวเป็นอย่างไร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ย่อมปรุงแต่งวจีสังขารที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ย่อมปรุงแต่งมโนสังขารที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง นี้เราเรียกว่า กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาว.
ภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมเป็นอย่างไร ภิกษุทั้งหลาย ในบรรดากรรมเหล่านั้น เจตนาใดเพื่อละกรรมดำอันมีวิบากดำก็ดี เจตนาใดเพื่อละกรรมขาวอันมีวิบากขาวก็ดี เจตนาใดเพื่อละกรรมทั้งดำทั้งขาวอันมีวิบากทั้งดำทั้งขาวก็ดี นี้เราเรียกว่า กรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม.
ภิกษุทั้งหลาย กรรม ๔ ประการเหล่านี้แล เรากระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ทราบ.
-บาลี จตุกฺก. อํ. 21/318/235.
https://etipitaka.com/read/pali/21/318/
https://etipitaka.com/read/pali/21/318