Four deeds (4)
English translation by Bhikkhu Sujato
“Mendicants, I declare these four kinds of deeds, having realized them with my own insight….
And what are dark deeds with dark results? It’s when someone makes hurtful choices by way of body, speech, and mind. These are called dark deeds with dark results.
And what are bright deeds with bright results? It’s when someone makes pleasing choices by way of body, speech, and mind. These are called bright deeds with bright results.
And what are dark and bright deeds with dark and bright results? It’s when someone makes both hurtful and pleasing choices by way of body, speech, and mind. These are called dark and bright deeds with dark and bright results.
And what are neither dark nor bright deeds with neither dark nor bright results, which lead to the ending of deeds? The awakening factors of mindfulness, investigation of principles, energy, rapture, tranquility, immersion, and equanimity. These are called neither dark nor bright deeds with neither dark nor bright results, which lead to the ending of deeds.
These are the four kinds of deeds that I declare, having realized them with my own insight.”
ภิกษุทั้งหลาย กรรม ๔ ประการเหล่านี้ เรากระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ทราบ กรรม ๔ ประการอะไรบ้าง คือ
๑) กรรมดำมีวิบากดำก็มี.
๒) กรรมขาวมีวิบากขาวก็มี.
๓) กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาวก็มี.
๔) กรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมก็มี.
ภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมดำมีวิบากดำเป็นอย่างไร คือ ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในกรณีนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารที่มีความเบียดเบียน ย่อมปรุงแต่งวจีสังขารที่มีความเบียดเบียน ย่อมปรุงแต่งมโนสังขารที่มีความเบียดเบียน ครั้นเขาทำความปรุงแต่งอย่างนี้แล้ว ย่อมเข้าถึงโลกที่มีความเบียดเบียน ผัสสะที่มีความเบียดเบียนย่อมถูกต้องเขา ซึ่งเป็นผู้เข้าถึงโลกที่มีความเบียดเบียนนั้น เขาอันผัสสะที่มีความเบียดเบียนถูกต้องแล้ว ย่อมได้เสวยเวทนาอันมีความเบียดเบียน เป็นทุกข์โดยส่วนเดียว ดังเช่น พวกสัตว์นรก ภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า กรรมดำมีวิบากดำ.
ภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมขาวมีวิบากขาวเป็นอย่างไร คือ ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในกรณีนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารที่ไม่มีความเบียดเบียน ย่อมปรุงแต่งวจีสังขารที่ไม่มีความเบียดเบียน ย่อมปรุงแต่งมโนสังขารที่ไม่มีความเบียดเบียน ครั้นเขาทำความปรุงแต่งอย่างนี้แล้ว ย่อมเข้าถึงโลกที่ไม่มีความเบียดเบียน ผัสสะที่ไม่มีความเบียดเบียน ย่อมถูกต้องเขา ซึ่งเป็นผู้เข้าถึงโลกที่ไม่มีความเบียดเบียนนั้น เขาอันผัสสะที่ไม่มีความเบียดเบียนถูกต้องแล้ว ย่อมได้เสวยเวทนาอันไม่มีความเบียดเบียน เป็นสุขโดยส่วนเดียว ดังเช่น พวกเทวดาสุภกิณหะ ภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า กรรมขาวมีวิบากขาว.
ภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาวเป็นอย่างไร คือ ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในกรณีนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารที่มีความเบียดเบียนบ้าง และไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ย่อมปรุงแต่งวจีสังขารที่มีความเบียดเบียนบ้าง และไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ย่อมปรุงแต่งมโนสังขารที่มีความเบียดเบียนบ้าง และไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ครั้นเขาทำความปรุงแต่งอย่างนี้แล้ว ย่อมเข้าถึงโลกที่มีความเบียดเบียนบ้าง และไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ผัสสะที่มีความเบียดเบียนบ้าง และไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ย่อมถูกต้องเขา ซึ่งเป็นผู้เข้าถึงโลกที่มีความเบียดเบียนบ้าง และไม่มีความเบียดเบียนบ้างนั้น เขาอันผัสสะที่มีความเบียดเบียนบ้าง และไม่มีความเบียดเบียนบ้างถูกต้องแล้ว ย่อมได้เสวยเวทนาอันมีความเบียดเบียนบ้าง และไม่มีความเบียดเบียนบ้าง อันเป็นสุขและทุกข์เจือปนกัน ดังเช่น มนุษย์ทั้งหลาย เทวดาบางพวก และสัตว์พวกวินิบาตบางพวก ภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาว.
ภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมเป็นอย่างไร คือ สติสัมโพชฌงค์ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ วิริยสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า กรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม.
ภิกษุทั้งหลาย กรรม ๔ ประการเหล่านี้แล เรากระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ทราบ.
-บาลี จตุกฺก. อํ. 21/321/238.
https://84000.org/tipitaka/pali/?21//321, https://etipitaka.com/read/pali/21/321