The consequences of killing animals
English translation by Bhikkhu Sujato
At one time the Buddha was wandering in the land of the Kosalans together with a large Saṅgha of mendicants.
While walking along the road he saw a fish dealer in a certain spot selling fish that he had killed himself. Seeing this he left the road, sat at the root of a tree on the seat spread out, and addressed the mendicants, “Mendicants, do you see that fish dealer selling fish that he killed himself?”
“Yes, sir.”
“What do you think, mendicants? Have you ever seen or heard of a fish dealer selling fish that he killed himself who, by means of that work and livelihood, got to travel by elephant, horse, chariot, or vehicle, or to enjoy wealth, or to live off a large fortune?”
“No, sir.”
“Good, mendicants! I too have never seen or heard of such a thing. Why is that? Because when the fish are led to the slaughter he regards them with bad intentions.
What do you think, mendicants? Have you ever seen or heard of a butcher of cattle selling cattle that he killed himself who, by means of that work and livelihood, got to travel by elephant, horse, chariot, or vehicle, or to enjoy wealth, or to live off a large fortune?”
“No, sir.”
“Good, mendicants! I too have never seen or heard of such a thing. Why is that? Because when the cattle are led to the slaughter he regards them with bad intentions.
What do you think, mendicants? Have you ever seen or heard of a butcher of sheep … a butcher of pigs … a butcher of poultry … or a deer-hunter selling deer which he killed himself who, by means of that work and livelihood, got to travel by elephant, horse, chariot, or vehicle, or to enjoy wealth, or to live off a large fortune?”
“No, sir.”
“Good, mendicants! I too have never seen or heard of such a thing. Why is that? Because when the deer are led to the slaughter he regards them with bad intentions.
By regarding even animals led to the slaughter with bad intentions you don’t get to travel by elephant, horse, chariot, or vehicle, or to enjoy wealth, or to live off a large fortune. How much worse is someone who regards human beings brought to the slaughter with bad intentions! This will be for their lasting harm and suffering. When their body breaks up, after death, they’re reborn in a place of loss, a bad place, the underworld, hell.”
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในแคว้นโกศลพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ พระผู้มีพระภาคทรงดำเนินไปตามหนทางไกล ได้ทอดพระเนตรเห็นชาวประมงจับปลา ฆ่าปลาแล้วขายอยู่ ณ ท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ได้เสด็จแวะริมทาง แล้วประทับนั่งลงบนอาสนะที่ได้ปูลาดไว้ ณ โคนต้นไม้แห่งหนึ่งแล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายเห็นชาวประมงผู้จับปลา ฆ่าปลาแล้วขายอยู่ที่แห่งโน้นหรือไม่.
เห็น ภันเต.
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร เธอทั้งหลายได้เห็น หรือได้ยินมาบ้างไหมว่า ชาวประมงผู้จับปลา ฆ่าปลาแล้วขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น.
ไม่เป็นอย่างนั้นเลย ภันเต.
สาธุ ภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น แม้เราเองก็ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินมาว่า ชาวประมงผู้จับปลา ฆ่าปลาแล้วขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะว่าเขาย่อมเพ่งดูปลาเหล่านั้นที่จะถูกฆ่า ที่ถูกนำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาป ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือไม่ได้ครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่.
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร เธอทั้งหลายได้เห็น หรือได้ยินมาบ้างไหมว่า คนฆ่าโค ผู้ฆ่าโคขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น.
ไม่เป็นอย่างนั้นเลย ภันเต.
สาธุ ภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น แม้เราเองก็ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินมาว่า คนฆ่าโค ผู้ฆ่าโคขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะว่าเขาย่อมเพ่งดูโคเหล่านั้นที่จะถูกฆ่า ที่ถูกนำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาป ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือไม่ได้ครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่.
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร เธอทั้งหลายได้เห็น หรือได้ยินมาบ้างไหมว่า คนฆ่าแพะ ผู้ฆ่าแพะขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น.
ไม่เป็นอย่างนั้นเลย ภันเต.
สาธุ ภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น แม้เราเองก็ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินมาว่า คนฆ่าแพะ ผู้ฆ่าแพะขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะว่าเขาย่อมเพ่งดูแพะเหล่านั้นที่จะถูกฆ่า ที่ถูกนำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาป ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือไม่ได้ครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่.
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร เธอทั้งหลายได้เห็น หรือได้ยินมาบ้างไหมว่า คนฆ่าสุกร ผู้ฆ่าสุกรขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น.
ไม่เป็นอย่างนั้นเลย ภันเต.
สาธุ ภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น แม้เราเองก็ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินมาว่า คนฆ่าสกุร ผู้ฆ่าสุกรขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะว่าเขาย่อมเพ่งดูสุกรเหล่านั้นที่จะถูกฆ่า ที่ถูกนำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาป ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือไม่ได้ครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่.
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร เธอทั้งหลายได้เห็น หรือได้ยินมาบ้างไหมว่า พรานล่านก ผู้ฆ่านกขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น.
ไม่เป็นอย่างนั้นเลย ภันเต.
สาธุ ภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น แม้เราเองก็ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินมาว่า พรานล่านก ผู้ฆ่านกขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะว่าเขาย่อมเพ่งดูนกเหล่านั้นที่จะถูกฆ่า ที่ถูกนำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาป ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า
ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือไม่ได้ครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่.
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร เธอทั้งหลายได้เห็น หรือได้ยินมาบ้างไหมว่า พรานล่าเนื้อ ผู้ฆ่าเนื้อขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น.
ไม่เป็นอย่างนั้นเลย ภันเต.
สาธุ ภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น แม้เราเองก็ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินมาว่า พรานล่าเนื้อ ผู้ฆ่าเนื้อขายอยู่ ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะการกระทำนั้น หรือเพราะอาชีพนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะว่าเขาย่อมเพ่งดูเนื้อเหล่านั้นที่จะถูกฆ่า ที่ถูกนำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาป ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็นเจ้าของโภคทรัพย์ หรือไม่ได้ครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ จะป่วยการกล่าวไปไย ถึงบุคคลผู้เพ่งดูมนุษย์ที่จะถูกฆ่า ที่ถูกนำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาปเล่า ภิกษุทั้งหลาย เพราะผลข้อนั้นย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์ตลอดกาลนานแก่เขา ภายหลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกายแล้ว เขาย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก.
-บาลี ฉกฺก. อํ. 22/336/289.
https://84000.org/tipitaka/pali/?22//289
https://etipitaka.com/read/pali/22/336/