A mendicant who has immersion will understand the truth. (3)
English translation by Bhikkhu Sujato
“Mendicants, develop immersion. A mendicant who has immersion truly understands. What do they truly understand?
They truly understand that the eye is impermanent. They truly understand that sights … eye consciousness … eye contact … the pleasant, painful, or neutral feeling that arises conditioned by eye contact is impermanent. …
They truly understand that the mind is impermanent. They truly understand that thoughts … mind consciousness … mind contact … the pleasant, painful, or neutral feeling that arises conditioned by mind contact is impermanent.
Mendicants, develop immersion. A mendicant who has immersion truly understands.”
English translation by Bhikkhu Bodhi
“Bhikkhus, develop concentration. A bhikkhu who is concentrated understands things as they really are.
“And what does he understand as they really are? He understands as it really is: ‘The eye is impermanent.’ He understands as it really is: ‘Forms are impermanent.’… ‘Eye-consciousness is impermanent. ’… ‘Eye-contact is impermanent.’… ‘Whatever feeling arises with eye-contact as condition—whether pleasant or painful or neither-painful-nor-pleasant—that too is impermanent.’…
“He understand as it really is: ‘The mind is impermanent.’… He understand as it really is: ‘Whatever feeling arises with mind-contact as condition … that too is impermanent.’
“Bhikkhus, develop concentration. A bhikkhu who is concentrated understands things as they really are.”
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงเจริญสมาธิเถิด ภิกษุผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริง ก็ภิกษุย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงซึ่งอะไร คือ
ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า ตาไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า รูปทั้งหลายไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า วิญญาณทางตาไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า ผัสสะทางตาไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะผัสสะทางตาเป็นปัจจัยก็ไม่เที่ยง.
ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า หูไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า เสียงทั้งหลายไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า วิญญาณทางหูไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า ผัสสะทางหูไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะผัสสะทางหูเป็นปัจจัยก็ไม่เที่ยง.
ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า จมูกไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า กลิ่นทั้งหลายไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า วิญญาณทางจมูกไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า ผัสสะทางจมูกไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะผัสสะทางจมูกเป็นปัจจัยก็ไม่เที่ยง.
ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า ลิ้นไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า รสทั้งหลายไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า วิญญาณทางลิ้นไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า ผัสสะทางลิ้นไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะผัสสะทางลิ้นเป็นปัจจัยก็ไม่เที่ยง.
ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า กายไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า โผฏฐัพพะทั้งหลายไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า วิญญาณทางกายไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า ผัสสะทางกายไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะผัสสะทางกายเป็นปัจจัยก็ไม่เที่ยง.
ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า ใจไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า ธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า วิญญาณทางใจไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า ผัสสะทางใจไม่เที่ยง ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริงว่า แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะผัสสะทางใจเป็นปัจจัยก็ไม่เที่ยง.
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงเจริญสมาธิเถิด ภิกษุผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริง.
-บาลี สฬา. สํ. 18/99/147.
https://84000.org/tipitaka/pali/?18//99
https://etipitaka.com/read/pali/18/99